Tuesday, September 22, 2015
Friday, September 18, 2015
เรื่องเล่า ฮาๆๆ จาก ซานเดียเอโก้ (San Diego, CA)
ประมาณ สามีปีที่เเล้วได้มีโอกาสติดตามสามีไปทำงาน ที่ ซานเดียเอโก้ รัฐ เเคลิฟลอเนีย (Sandiego, California) เผอิญตอนนั่นสามีเป็นครู ต้องไปทำงาน สอน นักศึกษาที่ กำลังเตรียมตัวสอบเข้าเป็นนักศึกษาเเพทย์ เรียกว่าโปรเเกรม Medical College Admission Test (MCAT)
สามีถามหัวหน้าว่า เเฟนฉันว่างหนึ่งเดือน เอาเเฟนไปด้วยได้ไหม หัวหน้าสามีใจดีมากเลย เขาบอกว่าได้ พอไปถึง ซานเดียเอโก้ เขามีที่พักฟรี อาหารฟรี ช่วงเวลาที่อยู่ที่นั่น สามีเราก็ทำงาน ส่วนเราก็ ทำตัวเนียนว่ามาทำงานกับเขาด้วย เเต่เปล่าหรอก เราไม่ได้ทำงาน ว่างไปวันๆๆ วันไหนอารมณ์ดีก็เดินออกจากห้องไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ทะเลใกล้ๆๆ ที่ที่เรากับสามีอยู่ อยู่ใกล้ทะเล ทะเลสวยมาก สะอาด อากาศดี โชคดีที่สามีได้ที่ทำงานทำเลดี หรือถ้าวันไหนอารมณ์เเบบว่าอยากไปช็อปปิ้งก็ขับรถไปช็อปปิ้งคนเดียว เเบบเหงาๆๆ เพราะว่าสามีต้องทำงาน สามีจะหยุดเสาร์อาทิตย์ นั่นคือช่วงเวลาทองของเราเลย เพราะว่ารอสามีพาไป กินอาหารไทย อาหารไทยที่นั่นอร่อยมากเลย มีร้าน อาหารไทย อาหารอีสานเยอะค่ะ มีซุปหน่อไม้ขายด้วยค่ะ ส้มตำรสชาติ ได้ใจสุดๆๆค่ะ ถ้ามีโอกาสกลับไปอีก ต้องไม่พลาดสั่งซุปหน่อไม้อีกเเน่นอนค่ะ สามีก็ชอบกินซุปหน่อไม้ค่ะ (ฝรั่งกลายพันธุ์ ชอบกินส้มตำใส่ปลาร้า ลาบไก่ ข้าวเหนียว ชอบมากค่ะ)
มีครั้งหนึ่งในช่วงวันหยุดของสามีเรา สามีเราพาเราขับรถจาก ซานเดียเอโก้ (San Diego, CA)ไปเยี่ยมเพื่อนสามีที่ ลอสเเองเจอลิส (Los Angeles, CA )ใช้เวลาขับรถประมาณ สองชั่วโมงกว่าๆๆ เเล้วเเต่ว่ารถติดมากน้อยเเค่ไหน เเต่ขอบอกว่ารถติดไม่เเพ้เเมืองไทยค่ะ นอนบ้านเพื่อนสามีหนึ่งคืน เเล้ว เช้าวัดถัดมาก็บอกลาเพื่อนสามีเเละครอบครัว เเล้ว มุ่งหน้าไป ในตัวเมือง ลอสเเองเจอลิส ไป ไทยทาวน์ค่ะ โอ้เเม่เจ้า อาหารไทยเยอะมาก ไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือ ส้มตำ ยำวุ้นเส้น ขอบอกว่า ท้องเเทบเเตกค่ะ
บางอาทิตย์ที่หยุด ในบรรดาเพื่อนเเฟนที่หยุดพร้อมกัน เขาก็จะมีปาร์ตี้ พากันไปกินข้าวไปเที่ยวในตัวเมือง ซานเดียเอโก้ (San Diego, CA) เราจำได้ว่าวันนั่นคือ คืนวันเสาร์ ทั้งหัวหน้าเเฟน เเละก็เพื่อนเเฟน เเฟนเรา เเล้วก็รวมทั้งเราได้ไปเที่ยวผับในตัวเมือง ซานเดียเอโก้ (San Diego, CA) โดยหัวหน้าเเฟนเราได้เช่ารถตู้สิบเอ็ดที่นั่ง ทั้งหมดก็สิบสองคนประมาณว่า นั่งเบียดๆๆกันไป วันนั่นจำได้ว่าฮามาก ทุกคนสนุกเต็มที่ ดื่มกันเต็มที่ เต้น ก้นเต็มที่ พอถึงเวลากลับบ้าน ปรากฎว่าทุกคน เมาบ้าง ดื่มเยอะมากจนขับรถไม่ไหวบ้าง ไม่มีใครสามารถขับรถกลับที่พักได้ เเฟนเราบอกว่า เราไม่ได้ดื่มไม่มีเเอลกอฮอลในสายเลือดเลย ขับได้ ณ ความรู้สึกตอนนั่น คิดในใจว่า เฮ้ย จริงเหรอ นี้ต้องเป็นฉันเหรอ ที่ต้องขับรถรับผิดชอบสิบสองชีวิตกลับที่พัก ขอมึนเเป๊ปปป อย่าว่าเเต่เรา ทุกคนก็มึนพอกัน บางคนก็ไม่มั่นใจในตัวเราว่าเราจะพาทั้งสิบสองชีวิตกลับที่พักอย่างปลอดภัยหรือเปล่า (เราก็ไม่มั่นใจในตัวเองเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ) สรุปทางเลือกสุดท้าย ก็ต้องเลือกเราให้ขับรถพาทุกคนกลับที่พัก ฮ่าๆๆๆ ไอ้ตอนฮา ก็ตอนขับรถกลับที่พักนี้เเหละ คิดดูฝรั่ง เเต่ละคนตัวโตๆๆทั้งนั่น น้ำหนักก็ อืมนะ เเล้วสิบสองคน พอจับพวงมาลัย เลื่อนรถออกจากที่รู้สึกได้ทันทีว่า เฮ้ยรถมันหนักมากกก ฮ่าๆๆ ยังไม่พอ ตอนนั่นเป็นเวลาเกือบตีสาม ถนนมันก็มึดอะนะ คนเมาก็ต้องฝืนไม่เมา บอกทางให้เราขับตามฮ่าๆๆ ยิ่งเวลาที่รถขึ้นเนินนะ รู้สึกว่ารถมันเหมือนเต่าอะ ทั้งๆๆที่เราเหยียบคันเร่งสุดๆๆเเล้วเเต่มันก็ฝืดอยู่ดี เพื่อนเเฟนบอกว่า ยูต้องเหยียบคันเร่งอีก ไอ้เราก็บอกว่า เนี่ยฉันเหยียบสุดๆๆเเล้วนะ มันได้เท่านี้ละ ฮ่าๆๆ ยังไม่พอ พอขับสวนกับรถตำรวจนะ ทุกคนในรถเกร่งกันเป็นเเถว ฮ่าๆๆ อยากจะบอกว่า เฮ้ยไม่ต้องเกร่ง เรามีใบขับขี่ เราไหวอยู่ ฮ่าๆๆ เเต่ในใจลึกๆๆ อยากจะร้องตะโกนดังๆๆว่า เฮ้ย กลัวเหมือนกันนะ กลัวโดนตำรวจเรียกเเล้วเจอ ซากคนเมาในรถ ฮ่าๆๆ ยังไม่พอ พอขึ้นทางด่วน เขาให้ขับความเร็ว หกสิบห้า ไอ้เราก็มองไม่เห็นทาง เเละด้วยความที่เเบกมาสิบสองชีวิตในรถ ก็ไม่กล้าขับเร็ว ประกอบกับรู้สึกว่ารถมันหนักมากกก เราก็ขับ หกสิบ คนที่เมาในรถต้องบอกว่ายูต้องเร่งความเร็วขึ้นอีกนะ ระดับความเร็วบนทางด่วนมันหกสิบห้า สรุปวันนั่นเผื่อจะถึงที่พักเล่นเอาเเต่ละคนหายเมากันทีเดียว ลุ้นเเล้วลุ้นอีกว่าจะถึงที่พักไหม เเต่สุดท้ายทุกเราก็พาขี้เมาทั้งหลายกลับถึงที่พักอย่างปลอดภัย ฮ่าๆๆๆ อันนี้ก็ฮากันไป
ด้วยความที่เรากินอยู่ฟรี ว่างไปวันๆๆ ทำให้คนที่เขาทำงานเห็นเเล้วอิจฉา หัวหน้างานสามีก็เลยบอกเราว่า ฉันจะให้ยูไปดูลายมือให้พวกเด็กนักศึกษา นะ สักประมาณ หนึ่งอาทิตย์ วันละชั่วโมง ฮ่าๆๆๆ คือว่าสามีไปเล่าให้หัวหน้างานฟังว่า เราดูลายมือเป็น เอ้ออออ ขอ เอ้อออ ยาวๆๆ หน่อยค่ะ คือขอมึนเเป๊ป เเต่ด้วยความที่ไหนๆๆเขาก็ใจดี ให้ที่อยู่ทีพักฟรี กับเราตั้งหนึ่งเดือน ณ จุด จุดนั่นเเล้วก็ไม่รู้จะปฎิเสธยังไง ในใจคิดว่า ลองดูก็ได้นะ ขำๆๆ หัวหน้าเเฟนก็ใจดีมากเลย เตรียมป้าย สถานที่ไว้ให้เรียบร้อย
พอถึงวันจริงที่เราต้องดูลายมือให้นักศีกษา เขาบอกว่าเราต้องเริ่มดูลายมือ ตอน หกโมง ยันทุ่มหนึ่ง ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง วันนั่นอย่างฮาอะ ให้สามีนั่งเป็น ประชาสัมพันธ์หน้าห้อง เราก็นั่งรอเด็กนักศึกษาที่จะดูลายมืออยู่ในห้อง ในห้องก็จะมีเทียน อยู่สองอัน จุดไฟด้วย ประมาณว่าให้ได้บรรยากาศ ตอนเเรกคิดว่าอาจจะมีคนดูบ้าง สัก พอประมาณ เเต่ผิดคาด มีเด็กนักศึกษามานั่งรอดูลายมือเพียบ ฮ่าๆๆๆ จะฮาไปไหน ไม่น่าเชื่อว่าฝรั่งจะให้ความสนใจ เรื่องเเบบนี้ เเล้วโดยเฉพาะคนที่จะสมัครเรียนเป็นหมอ อ่าๆๆ เเอบฮาในใจอีกเเล้ว ความรู้สึก ณ ตอนนั่นเหมือนกับว่า เอ๊ะ เหมือนเขาอยากลองของอะ อยากรู้ ว่า ยูทำอะไร ยังไง เเต่สนุกดี บางคนก็ตรงมากถึงมากที่สุด บางคน ก็ไม่มีอะไรให้ดูเลย ชีวิตราบเรียบมาก ณ วันนั่น คือเเบบว่าคิวเต็มอะ ต้องปิดสำนักดูลายมือ เมื่อถึงเวลา ฮ่าๆๆ สำหรับคนที่มาไม่ทันก็ต้อง มาวันถัดไปค่ะ
ส่วนมากมีเเต่เด็กนักศึกษามาดู ส่วนพวก ครูที่สอน หรือว่าเพื่อนสามีไม่มีใครมาดูด้วยเลยสักคน จนวันหนึ่งไปนั่งกินข้าวเที่ยงด้วยกัน อยู่ๆๆเพื่อนเเฟนก็เเบมือ มาให้เราดูลายมือให้ ไอ้เราก็ ดูลายมือเขาเเล้วก็พูดไปเรื่อยตามเส้นลายมือ ยังพูดไม่หมดเลย เขาชักมือกลับเเล้วบอกพอๆๆ ทุกคนทั้งโต๊ะหัวเราะอะ คือเราพูดว่า อืม ยูเป็นคนเจ้าชู้อะ จะมีเเฟนหลายคน มีไปเรื่อย เท่านั่นละ เขาทำหน้าไม่ถูก เพราะที่เราพูดมันเป็นความจริง ฮ่าๆๆๆ อันนี้ก็ขำๆๆค่ะ ดูตามเส้นลายมือ
ที่จริงไม่ได้เก่งเรื่องดู ลายมือหรอกค่ะ พอดูได้บ้าง เเต่จุดประสงค์ของเรื่องก็คือ คลายเครียดให้นักศึกษาค่ะ เพราะว่าเเต่ละคนเรียนหนักกันน่าดู พอถึงวันหยุดเเต่ละคน ก็จะมีไปทำกิจกรรม วิ่ง หรือ บางคนก็ประมาณว่าเรียน เเละก็อ่านหนังสืออยู่ตลอดเวลา
ก็ถือว่าเป็นเรื่องราว เเละประสบการณ์ดีๆๆ ในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตที่น่าจดจำค่ะ
Tuesday, September 8, 2015
รวมเรื่องเล่า ประสบการณ์ชีวิตที่อเมริกา: พักร้อนที่ บอยตัน บีท ฟลอริด้า (Boynton Beach, Flo...
รวมเรื่องเล่า ประสบการณ์ชีวิตที่อเมริกา: พักร้อนที่ บอยตัน บีท ฟลอริด้า (Boynton Beach, Flo...: สวัสดีค่ะ เพื่อนๆๆ วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์พักร้อนที่ บอยตัน บีท ฟลอริด้า(Boynton Beach Florida)ให้ฟังกันค่ะ เมื่อ ประมาณ สามปีท...
Monday, September 7, 2015
เก็บเห็ด โมเรล (Morel Mushrooms) ที่ไอโอวา
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆๆ วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องเก็บเห็ด โมเรล (Morel Mushrooms) ที่รัฐไอโอวา ให้เพื่อนๆๆฟังค่ะ
อยู่เมืองนอกก็มีเทศกาลเก็บเห็ดเหมือนกันนะค่ะ ไม่ใช่มีเฉพาะเเต่เมืองไทยบ้านเรา ขอบอกก่อนนะค่ะว่าเราเป็นเด็กต่างจังหวัดค่ะ เด็กอีสานค่ะ จังหวัดนครพนม เป็นเด็กบ้านนอกค่ะ ตอนเด็กๆๆเเถวบ้านนอกก็จะมีฤดูเก็บเห็ด เราชอบเก็บเห็ดมากค่ะ มันเป็นอะไรที่สนุกมากกก ขอย้ำว่า สนุก มากกกค่ะ พอได้มีโอกาสมาอยู่อเมริกา ก็ยังมีโอกาสไปเก็บเห็ดอีก ตื่นเต้นมากค่ะ เพราะว่าไม่ได้เก็บเห็ดมานานมากเเล้ว พอเริ่มโตมา เเบบเเผนชีวิตก็เปลี่ยนค่ะ จากที่เคยทำตอนเราเด็กๆๆ ก็ไม่ได้ทำเเล้วค่ะ เเต่ลึกๆๆ ก็ยังคิดถึงประสบการณ์ตอนเด็กๆๆอยู่ค่ะ มันเป็นอะไรที่สนุกค่ะ รู้สึกว่าตัวเองมีประสบการณ์เกี่ยวกับป่าเยอะค่ะ เล่าให้เเฟนฟัง เเฟนยังบอกเลยว่า ชีวิตตอนเด็กยูสนุกเนาะ ฮ่าๆๆ ว่าเเล้วก็เข้าเรื่องเลยเนาะ
ตอนที่เราเริ่มทำงานที่คาสิโน เราได้มีโอกาสรู้จักกับเพื่อนดิวเลอร์ผู้หญิงด้วยกัน เป็นคนอเมริกันค่ะ เจอกันวันเเรกตอนเริ่มฝึกงาน ก็เริ่มสนิท เขานิสัยดีค่ะ ก็คุยกันนั่นนี่นู้นไปเรื่อย เขาก็เล่าให้ฟังว่าเขากับเเฟน ชอบทำอะไรในวันหยุด เหมือนคุยกันเเลกเปลี่ยนประสบการณ์กันนะค่ะ พอเล่าไปนั่นนี่นู้น เขาก็บอกว่า อ้อ ฉันชอบเก็บเห็ดด้วย พอได้ยินคำว่าเก็บเห็ดเท่านั่นละค่ะ เราหูผึง ทันทีเลย เเบบว่า เฮ้ย มันใช่อะ มาถูกทางเเล้วอะ เราก็รีบถามทันทีเลย ว่า เห็ดอะไร ยู ไปเก็บที่ไหน คราวหน้าถ้า ยู กับ เเฟน จะไปอีก ขอฉันไปด้วยได้ไหม พอเราบอกว่าเราสนใจเท่านั่นละ เขาก็ดีมากเลย เขาก็บอกว่า ได้สิ เดี๋ยวคราวหน้า ฉันจะ โทรไปชวนนะ พอคุยกันเสร็จ ประกอบกับเริ่มงานใหม่ ชีวิตก็ยุ่งวุ่นวาย จน ลืม เเต่เเล้ววันหนึ่งเขาก็บอกว่า โอเค ฉันเตรียมเเผนไว้เเล้วนะ ว่า วันหยุด ของเราที่จะถึงนี้ เราจะไปเก็บเห็ดกัน ก็จะมี ฉัน สามี ฉัน เเล้วก็ หัวหน้าผู้หญิงที่ทำงานด้วย หนึ่งคน เเล้วก็ยูกับสามียู โอเค ไหม พอเขาบอกเท่านั่นละ เรารีบบอกว่าโอเคเลย บังเอิญว่าวันหยุดเรา กับ วันหยุด เพื่อนผู้หญิงคนนี้ตรงกัน
เห็ด โมเรล (Morel Mushrooms) นี้จะมี ช่วง ฤดู ใบไม้ผลิ (Spring) ก็จะเป็นช่วงปลายเดือน มีนาคม ถึง เดือน พฤษภาคม รูปร่างของเห็ดก็จะคล้ายๆๆกับถั่วลิสง จะมีทั้งสี น้ำตาล ดำ รสชาติ อร่อย รสชาติเหมือนเนื้อ สเต็ก ที่สำคัญ ราคาเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เพื่อนเราเล่าให้ฟังว่า มีคนเก็บเห็น โมเรล (Morel Mushrooms) นี้ขายเป็นอาชีพด้วยนะ ส่วนมากเห็ด โมเรล จะเกิด บริเวณ ใต้ต้น โอ๊ค (Oak) ต้น เอสเพ็น (Aspen) ยิ่งเฉพาะ เวลาที่วันไหนอากาศร้อน เเละ ถ้าวันไหนฝนตก เช้าของอีกวัน เตรียมตัวไปหาเห็ดได้เลย เพื่อนเราบอกว่า มันจะออกเเถวที่มันเคยออก เป็นประจำ ถ้าปีที่เเล้วเคยเก็บตรงไหน ปีถัดไปก็มาหาบริเวณที่เดิมนี้เเหละ
ว่าเเล้ว วันหาเห็ดก็มาถึง เรากับสามีขับรถไปเจอเพื่อนเราที่บ้าน พอไปถึงเพื่อนเราบอกว่า หัวหน้างานผู้หญิงอีกคน มาไม่ได้ ติดธุระ สรุปวันนั่นก็มีเรา สามี เเล้วก็ เพื่อนเรากับสามีเขา เพื่อนเราก็บอกให้เรากับสามีขับรถตาม เขากับสามีไปที่ป่าเห็ด ก็อยู่ไม่ไกลบ้านเขาเท่าไหร่ ประมาณว่า อยู่หลังบ้าน เเต่ ขับรถไปจะ ง่าย เเละ เร็วกว่ามาก เหมือนกับว่า เป็นป่าที่ติดกับไร่ข้าวโพด เเต่ตอนนั่น เขายังไม่เริ่มปลูกข้าวโพด เเต่เป็นไร่ที่เหลือเเต่ซาก ข้าวโพด จากปีที่เเล้ว พอไปถึง ก็จะมีที่ให้จอดรถ เเล้วก็ต้องเดินต่อไปอีก สักพัก วันนั่นอากาศร้อน เเละเเดดเเรง เเต่ด้วยความที่เรากลัว เเดด กลัว ดำ (คลำอยู่เเล้ว เเต่กลัว มัน คลำ กว่าเดิม) เราก็เลยใส่เสื้อเเขนยาว กางเกงยีนส์ขายาว เเฟนเราเเต่งตัว ซิว มาก เเบบว่า เสื้อ เเขนสั้น กางเกงขาสั้น ฝรั่งนะเนาะ เเบบว่า คิดว่าอากาศคงร้อน เเต่งเเบบสบายตัวเเล้วกัน พอไปถึงก็ สี่โมงกว่าเเล้ว เเต่ว่าเเดดยังเเรงอยู่ โอ้เเม่เจ้า ต้องบุกป่า คิดในใจโชคดีนะนี้ ที่ใส่ขายาวมา ไม่งั้น ขาโดน ต้นไม้ เล็กๆๆ เเละ เศษไม้เเถวนั่น ข่วนเเน่ ปรากฎว่าเเฟน ก็ ซวยไป ผิดคาด ใส ขาสั้นไป โดนข่วนจนขาลาย
พอไปถึงป่าเห็ด เรา ก็เเยกกันหาเห็ด เเต่ ก็ไม่ได้เเตกกลุ่ม ประมาณว่า เเยกกันเเต่ยังมองเห็นกัน ส่งเสียงเรียก ตลอดเวลา กลัว หลงป่า ไอ้เราก็ไม่เคยเห็นไอ้เห็ด โมเรล นี้มา ก่อน ว่าหน้าตามันเป็นยังไง เเต่ดีที่เรา หาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตไปก่อนว่า หน้าตา เห็ดเป็นยังไง เราเป็นคนเห็นเห็ดเป็นคนเเรก มันดอกเล็กมาก ซ่อน ตัวอยู่ใต้ใบไม้ ยอดเห็ด โผล่ขึ้นมานิดหนึ่ง ความรู้สึกตอนนั่นมันเหมือน ได้ย้อนรำลึกความหลังไปสมัยตอนเด็ก ฮ่าๆๆๆ เเต่มันสนุกอะ รู้สึกปลดปล่อย ดืมด่ำ กับ ธรรมชาติ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เเบบว่า ชอบอะ พอเจอเห็ดดอกเเรก เราก็ตะโกนเสียงดังให้คนอื่นได้ยินว่า เราเจอเห็ด เเฟนเรา กับ เพื่อนเราก ก็มาดูว่า ใช่หรือเปล่า ปรากฎว่ามันใข่อะ เเต่ดอกไม่ใหญ่เท่าไหร่ เเล้วก็เดินหาต่อไปอีกสักพัก เราก็เจออีก เราก็ตะโกนว่าเจอเห็ออีก สรุป เราเจอเห็ดสามดอกเเล้ว เเฟนเรายังไม่ได้สักดอก ขอเม้าท์ สามี มี เเอบ เคือง ที่หาเห็ดไม่ได้ ฮ่าๆๆ ฮาอะ หลังจากนั่น สามีของเพื่อนเรา ก็พาเดินเข้าไปในป่าลึกอีก เขาบอกว่าวันก่อนเขามาหาทีหนึ่งเเล้ว เเต่ว่ามันยังดอกเล็กอยู่ เขาก็เก็บเอาดอกเล็กๆๆ ย้าย ไปไว้ใต้ต้นไม้ที่เขาเก็บเป็นประจำ เเล้วเอาใบไม้ปิด พวกเราก็เดินตามเขาไป ที่ต้นไม้ที่เขาบอก พอไปถึง โอ้เเม่เจ้า พวกเราเจอกลุ่มเห็ด เยอะมาก เเต่ละคนก็จะมีถุงพลาสติก คนละใบ เอาไว้ใส่เห็ด ขนาดว่า ไปเจอเห็ดเป็นกลุ่ม เเบบนั่นนะ เราก็เก็บเพลินเลยดิ เเต่เเฟนเราหาไม่เจอสักดอก ฮ่าๆๆ เราต้องไปชื้ให้เเฟนเก็บ ฮ่าๆๆ อนิจจัง ไม่งั้น ฮี มี เคือง ที่เก็บเห็ดไม่ได้สักดอก เเต่ละคนก็ยุ่ง ในการเก็บเห็ด เพลินเชียว
สรุปก็ได้ กันคนละพอประมาณ
สรุปวันนั่นก็ใช้ เวลาในการเก็บเห็ด ประมาณ เกือบสองชั่วโมง เเต่ รู้สึกไม่นานเลย เพราะว่าชอบ รู้สึกเพลินดี วันนั่นก็ได้เห็ดกลับบ้าน พอประมาณ เพื่อนเราก็ดีมาก อุตสาห์บอกว่าต้องทำยังไงกับเห็ด เขาก็บอกวิธี ล้างเห็ด เเล้วก็วิธี นำเห็ดไปปรุงอาหาร ว่าต้องทำยังไง ก็คือ ต้องล้าง ประมาณสักสองครั้ง เเล้ว เเช่ น้ำเกลือ เอาเข้าตู้เย็น เเช่ข้ามคืน พอตอนเช้ามาก็ ล้างอีกที เเล้ว ก็ ผ่าครึ่ง เห็ด เเล้ว บดขนมปังเเค็กเกอร์ ผสมกับไข่คลุกให้เข้ากัน เเล้ว เอาเห็ดลงไปคลุก หลังจากนั่นก็ทอดเห็ด กับ บัตเตอร์ รสชาติอร่อยมากอะ เเต่เรา ชอบ ที่ จะทอดเฉพาะเห็ด กับบัตเตอร์มากกว่า รสชาติ เห็ดก็จะออกเค็มๆๆ มันส์ๆๆ หอมกลิ่นบัตเตอร์ นิดหนึ่ง สรุปก็คืออร่อยอะนะ ว่าเเล้วก็ต้องขอบคุณเพื่อน ดิวเลอร์ผู้หญิง จากที่ทำงานมากเลยที่พาไปหาประสบการณ์ เเปลกใหม่ อยากจะบอกว่ามันเป็นความรู้สึกที่ใช่อะ เเฮปปี้ สุดๆๆ ณ ตอนนี้ก็รอให้ ช่วงเก็บเห็ดของปีหน้ามาเร็วๆๆ จะได้ไปเก็บเห็ดอีก อิๆๆ
Friday, September 4, 2015
รวมเรื่องเเปลกๆๆที่ทำงาน
เเปลกเเต่จริง
**วันหนึ่งกำลังเดินไปที่โต๊ะ หลังจากพักเบรคเสร็จ เห็นหมาตัวโตมาก นอนอยู่บนพื้น เเอบงงว่าเอ๊ะ อะไร ยังไง ที่นี้เอาหมาเข้ามาได้ด้วยเหรอ คือว่า ไม่เข้าใจ ว่า เจ้าของหมา จะพาหมา มาด้วย ทำไม หรือ อีกวันเจอ ยายคนหนึ่งจูง หมา มาสองตัวเลย เเหม่ ยายพาหมามาเล่นไพ่ด้วยอะ มีการเเนะนำหมาด้วยนะว่า หมาชื่ออะไร ฮ่าๆๆ อืมมมมม หมดคำบรรยาย อย่าว่าเเต่เรามองเลย ขนาดฝรั่งด้วยกันยังมอง เเล้วทำหน้า งง เคยมีลูกค้าถามเราว่าที่นี้เขาให้เอาหมาเข้ามาได้ด้วยเหรอ ไอ้เราก็บอกกับลูกค้าว่า พูดจริงๆๆนะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฮ่าๆๆ กลับบ้านไปถามเเฟน เเฟนบอกว่า บางคน มีใบอนุญาติให้นำหมาเข้าไปได้ อ้อ เหรอ มี เเบบนี้ด้วยเหรอ
**มีลูกค้าผู้หญิงเกาหลี อายุประมาณเกือบห้าสิบ สั่งเครื่องดื่มมา ไอ้เราก็เห็นเป็นเเก้วพลาสติกสีส้ม กับ ซอสพริก สักพัก เห็นป้าเเก เท ซอสพริก ใส่เครื่องดืม อะไรอะ มันคืออะไร ฮ่าๆๆ นี้คือวิธีการดื่มเเบบใหม่หรืออย่างไรกัน ฝรั่งที่นั่งข้างป้าก็มอง เเล้วหันมามองหน้าเราประมาณว่ายูเห็นไหม เขาทำอะไรนะ ฮ่าๆๆ ในใจเเอ๊บคิดว่า เอ๊ะ หรือว่าคนเกาหลีเขาดื่มกันเเบบนี้ ฮ่าๆๆๆๆ อันนี้ก็ปล่อยให้งงกันต่อไป ฮ่าๆๆๆ ไม่กล้าถามเดี๋ยวเจ้ เเก เสียไพ่เเล้วมีน้ำโห ฮ่าๆๆ อันนี้ก็ปล่อยเเกไป
**เรื่องปกติของเราเเต่ฝรั่งมองว่าเเปลก**
ที่ห้องพักพนักงาน เราซื้อ สัปปะรด มานั่งกินกะเกลือ โอ้เเม่เจ้าฝรั่งที่นั่งโต๊ะเดียวกับเรามองกันทั้งโต๊ะเเล้วก็เริ่มวิจารณ์กันต่างๆๆนาๆๆ ว่าจริงเหรอ ยูกิน สัปปะรด กะเกลือเหรอ เเปลกอะ ไอ้เราก็บอกว่า ไม่เเปลกหรอก ปกติคนเอเชียเขาก็กินกันเเบบนี้เเหละ มาดูของฝรั่งกันบ้างที่กินต่างกับเรา เวลาเขากินเเตงโมเขากินกับเกลืออะ ไอ้เราก็งงอะ จริงเหรอ ยูกินเเตงโมกับเกลือเหรอ เอ้อ ก็ต้องยอมรับนะว่า อร่อยเขาอร่อยเรามันไม่เหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ
Sunday, August 30, 2015
รวมเรื่องเล่า ประสบการณ์ชีวิตที่อเมริกา: รวม เรื่อง ขำๆๆ ที่ทำงาน ที่คาสิโน
รวมเรื่องเล่า ประสบการณ์ชีวิตที่อเมริกา: รวม เรื่อง ขำๆๆ ที่ทำงาน ที่คาสิโน: รวมเรื่อง ขำๆๆ ที่ทำงานที่ คาสิโน วันหนึ่งไปทำงาน มี เพื่อน รุ่นลุง เเกเป็นดิวเลอร์เหมือนกัน ลุงเป็นคนที่ฮา มากอะ อายุลุงเยอะเเล้วนะ ประม...
รวมเรื่องเล่า ประสบการณ์ชีวิตที่อเมริกา: ประสบการณ์ การสัมภาษณ์งานที่ ฮา ที่สุดในชีวิต
รวมเรื่องเล่า ประสบการณ์ชีวิตที่อเมริกา: ประสบการณ์ การสัมภาษณ์งานที่ ฮา ที่สุดในชีวิต: สวัสดีค่ะ เพื่อนๆๆ เรามีเรื่องเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ การสัมภาษณ์งานที่ ฮา ที่สุดมาเล่าให้ฟังค่ะ เมื่อสองปีก่อนเรากับเเฟน เพิ่งย้ายมาไอโอวา ...
ประสบการณ์ การสัมภาษณ์งานที่ ฮา ที่สุดในชีวิต
ประสบการณ์ การสัมภาษณ์งานที่ ฮา ที่สุดในชีวิตhttp://toonyvogel.blogspot.com/p/blog-page.html: สวัสดีค่ะ เพื่อนๆๆ เรามีเรื่องเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ การสัมภาษณ์งานที่ ฮา ที่สุดมาเล่าให้ฟังค่ะ เมื่อสองปีก่อนเรากับเเฟน เพิ่งย้ายมาไอโอวา ...
Wednesday, August 26, 2015
ประสบการณ์การทำงานคาสิโนในอเมริกา: ประสบการณ์การทำงานคาสิโนในอเมริกา ตอนที่ 2
ประสบการณ์การทำงานคาสิโนในอเมริกา: ประสบการณ์การทำงานคาสิโนในอเมริกา ตอนที่ 2: ตอนที่ 2 วันเเรกที่เริ่มงาน เขาให้ทำกะกลางวันก่อน ทำวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา เจ็ดโมงเช้ายันบ่ายสามโมงเย็น ไอ้เราก็ยิ้มเเปร๋เลย ได้เว...
ประสบการณ์การทำงานคาสิโนในอเมริกา: ประสบการณ์ การทำงานคาสิโนที่อเมริกา ตอนที่ 1
ประสบการณ์การทำงานคาสิโนในอเมริกา: ประสบการณ์ การทำงานคาสิโนที่อเมริกา ตอนที่ 1: ตอนที่ 1 สวัสดีค่ะ เพื่อนๆๆ เราอยู่รัฐไอโอวาค่ะ เรามีประสบการณ์ การทำงานที่อเมริกามาเล่าสู่กันฟังค่ะ เริ่มเเรกเราขอวีซ่า เรียนเ...
Monday, August 24, 2015
ประสบการณ์การทำงานคาสิโนในอเมริกา ตอนที่ 2
ตอนที่ 2
วันเเรกที่เริ่มงาน เขาให้ทำกะกลางวันก่อน ทำวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา เจ็ดโมงเช้ายันบ่ายสามโมงเย็น ไอ้เราก็ยิ้มเเปร๋เลย ได้เวลางานดีอะ ได้หยุดเสาร์อาทิตย์ด้วย (เเต่ขอบอกว่าเวลานี้ได้เเค่อาทิตย์เดียวเท่านั่น เพราะว่าอาทิตย์ถัดไป ก็ต้องเข้ากะหกโมงเย็นถึงตีสอง) ต้องบอกก่อนว่า คาสิโนที่เราทำเปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ตอนกลางวันคนเล่นไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ คนเล่นจะเริ่มเยอะประมาณหลังห้าโมงเย็น เเต่ถ้าเป็นช่วงเสาร์ อาทิตย์ คนเล่นจะเยอะมาก วันเเรกครูฝึกก็จะเเนะนำให้รู้จักหัวหน้างาน หลังจากนั่นหัวหน้างานก็จะบอกว่าเราต้องไปประจำโต๊ะไหน เเต่ว่าเขาก็จะให้เรายืนดู ดิวเลอร์รุ่นพี่ก่อนที่เราจะเริ่มทำจริงๆ สักประมาณ ยี่สิบนาที หลังจากนั่นเราก็ต้อง ลงมือเป็นเจ้ามือเอง เเต่ว่า เราก็จะมีรุ่นพี่ดิวเลอร์ยืนประกบข้างหลังอีกที พอเราเข้าประจำที่ เราก็ต้องเเนะนำตัวเองก่อนว่าเราชื่ออะไร เเละก็ต้อง ทักทายคนเล่น หน้าตาต้องยิ้มเเย้มค่ะ เเล้วก็เริ่มลงมือ เเจกไพ่ หรือเราจะเรียกง่ายๆๆว่า ดิว (deal) พอเราเริ่มดิว เเบบว่าตื่นเต้นมากอะ มือไม้มันสั่น นับเลขก็ผิดๆๆถูกๆๆ เเละก็ดิวช้ามาก เเต่รุ่นพี่ก็ดีอะ เขาใจดีเเละก็เข้าใจ อารมณ์ ณ ตอนนั่น ตื่นเต้นมากจนไมเกรนมา ตามองเห็นอยู่ข้างเดียว ตาอีกข้างเห็นทุกอย่างเป็นดาวระวิงไปหมด เเต่เราก็ทำตัวปกติ เหมือนไม่มีอะไร เเต่รู้ตัวว่าตัวเองเริ่มเครียดอะ พอถึงเวลาพักเบรค (เบรคยี่สิบนาที เบรคทุกหนึ่งชั่วโมง ยี่สิบนาที) เราก็ไปนั่งในห้องอาหารของพนักงาน ห้องอาหารของพนักงานนี้ ก็จะมีอาหารเช้าไว้ ขายให้พนักงานในราคาย่อมเยาว์ ไม่เเพงมาก เเล้วก็จะมีพวกน้ำอัดลม กาเเฟ ชา พวกเครื่องดื่มนี้ฟรี มีไอศครีมอันนี้ไม่ฟรี เเล้วก็มีพวกขนมคบเคียวไว้ขาย) ดื่มน้ำสักเเก้วเเล้วก็บอกตัวเองว่า เราทำได้ ทำได้ เเละก็ทำได้ เอาวะสู้โว้ย พอขึ้นไป โชคดีมากอะ ไมเกรนหาย มาเเค่สิบห้านาที โอ้เเม่เจ้า ปกติ ถ้าเป็นไมเกรนมันจะมาเป็นวันอะ เเต่ว่านี้มาเเค่สิบห้านาที เเล้วมันก็จากไป คนเล่นตอนกลางวันส่วนมากก็จะเป็นคุณตาคุณยายที่ปลดเกษียณเเล้ว เเล้วก็วัยกลางคนประปราย วันเเรกที่เริ่มทำงานอย่างฮา มีคุณยายคนหนึ่ง เเก เเก่มากเเล้ว มานังที่โต๊ะ รวมกับคนเล่นคนอื่นๆๆ คุณยายจะเล่นเเล้วหยุด เเล้ว พักดื่มกาเเฟ ยังไม่พอ นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อีกต่างหาก โอ้เเม่เจ้า ยาย นี้ยายคิดว่ายายนั่งที่ห้องสมุดหรืออย่างไร คือว่ายายจะซิวไปไหน มิหน่ำซ้ำยังไม่พอ ยายทำของหล่นใต้โต๊ะเเล้วยายบอกให้ดิวเลอร์ลุกไปเก็บของให้ยายหน่อย เอ้อ ยายค่ะ ยายไม่รู้หรืออย่างไรว่าดิวเลอร์ ทิ้งโต๊ะเกมส์ไม่ได้ ถ้าดิวเลอร์ทิ้งโต๊ะเกมส์ไปเก็บของให้ยาย กลับมาที่โต๊ะอีกที มีหวังเงินหายหมดค่ะยาย เเล้ว ดิวเลอร์ ก็เตรียมหางานใหม่ได้เลยใช่ไหมค่ะ ยาย ฮึๆๆ ยายนี้ตลกเนาะ หัวหน้างานมองหน้าเราเเบบว่า อืมมมม หมดคำบรรยาย ไอ้เราคิดในใจว่า ขนาดหัวหน้างานไม่พูดอะไร ฉะนั่นเราก็จงเงียบต่อไปเหอะ ฮ่าๆๆๆ อันนี้ก็ฮากันไป คนเล่นส่วนมากก็จะชวนคุยถามนั่นนี้นู้นไปเรื่อย อย่างเช่นยูมาจากไหน มาอยู่อเมริกากี่ปีเเล้ว เเต่งงานหรือยัง อะไรประมาณนี้ เเต่งานนี้คุยมากไม่ได้เดียวสมาธิหาย ต้อง มีสมาธิมากๆๆ เดี๋ยวไม่งั้น มีนับเลขผิดๆๆถูกๆๆเเน่ เเล้วคนเล่นบางคนมีเเกล้งดิวเลอร์ใหม่ด้วยนะ ประมาณว่าลองภูมิดิวเลอร์ คนเล่นจะมีหลากหลายรูปเเบบมาก บางคนมีนับเลขเเทนดิวเลอร์ด้วย อันนี้ไม่ได้เด็ดขาดเลยดิวเลอร์ต้องทันคนเล่นเพราะว่าคนเล่นที่ชอบนับเลขนี้เเหละตัวดีเลย นับเลขผิดตลอดเชื่อไม่ได้ เราต้องนับให้ทันเเละเร็วกว่าคนเร็ว ไม่งั้นคนเล่นจะทำให้ดิวเลอร์สับสนได้ เเต่คนเล่นบางคนก็ดี ตอนเริ่มดิวใหม่ๆๆ คนเล่นก็ชวนคุยนั่นคุยนี้ไปเรื่อย คุยจนดิวเลอร์ลืมไปเลยว่า ต้องเก็บเงินคนเล่นเเต่ดันไปจ่าย เหตุการณ์เเบบนี้เกิดขึ้นบ่อย ไม่ได้เลย ต้องมีสติมากๆๆ นี้คือสาเหตุว่าทำไมต้องมีดิวเลอร์รุ่นพี่คอยจับตามองอยู่ข้างหลัง เเต่ถึงไม่มีดิวเลอร์รุ่นพี่อยู่ข้างหลังก็ยังมีห้องกล้อง ถ้าเราจ่ายเงินผิด หรือทำผิดเขาจะโทรสายตรงมายังหัวหน้างานเราทันที ยิ่งต้องทำงานกับเงินนี้ไม่ได้เลย ทุกครั้งที่คนเล่นซื้อซิพ ถ้าเกิน หนึ่งร้อยเหรียญ เราจะต้องตะโกนดังๆๆ ให้หัวหน้างานได้ยิน เอาเเบบให้คอเเทบเเตกเลยว่าเเลกเงินหนึ่งร้อยเหรียญ เพราะว่าหัวหน้างานคนหนึ่งต้องดูเเล โต๊ะเกมส์ สี่โต๊ะ บางทีหัวหน้างานก็ไม่ได้ยินเรา
ตอนเริ่มงานเรกๆนี้มีเรื่องฮาได้ตลอด เเบบว่าหัวหน้างานคนอเมริกัน เขายังไม่ชินกับสำเนียงเอเชียอย่างเรา หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเราออกเสียงไม่ถูกต้อง หรืออย่างไร ทุกครั้งที่สับไพ่ เราต้อง ตะโกนดังๆๆว่า ซัฟเฟิล (Shuffle) เเล้วพอสับไพ่ครบรอบหนึ่งเสร็จ รอบสอง เราต้องตะโกนดังๆๆอีกว่า ซัฟเฟิล เช็ค(Shuffle Check) หัวหน้างานทำหน้า งง ว่ายูพูดอะไรของยูนะ ไอ้เราก็คิดในใจว่า อะไร ยูไม่เข้าใจเหรอ ฉันออกจะพูดชัดเจน มีเเอบเคืองหัวหน้างานนิดๆๆด้วยนะ นี้เเกล้งกันหรือเปล่าวะ หัวหน้างานบางคนก็หัวเราะกับสำเนียงของเรา ขอบอกเเรกๆๆนะมีเเอบโกรธอะ คิดในใจว่า ก็ไม่ใช่ภาษาบ้านฉันนี้จะให้สำเนียงฉันเฟอร์เฟ็คก็คงจะไม่ใช่ละ ลองให้ยูมาพูดภาษาไทยยูก็คงจะไม่ต่างจากฉันหรอก เเต่พอหลังๆๆไปเขาก็ชินเอง ไม่ต้อง งง กับสำเนียงเราละ บางทียังไม่ทันอ้าปากเลย หัวหน้างานบอกว่า โอเค ตอนเเรกๆๆที่เริ่มงาน มี งง มากอะกับขั้นตอน การทำงาน เพราะมัวเเต่พะวาพะวงกับคำที่เราจะต้องตะโกนบอกหัวหน้างาน เวลา สับไพ่ เวลา เเลกเงิน เวลาคนเล่น เล่นเสร็จเเล้ว ต้องเเลกซิฟ จากนำนวนเล็กเป็นจำนวนใหญ่ รู้สึกว่ามันเยอะอะ ไหนจะต้องมานั่ง จดจ่อกับการนับเลขเเล้วต้องมานั่ง คิดว่าจะต้องตะโกนว่า อะไรเวลาลูกค้าจะเเลกเงินเเล้วเวลาคนเล่น เล่นเกิน หนึ่งร้อย จะต้องตะโกนบอก เเล้วเวลาที่คนเล่น เล่น เยอะตามจำนวนที่โต๊ะกำหนดก็ต้องตะโกนบอกหัวหน้าอีก คือ ต้องอธิบายก่อนว่าโต๊ะ เเบคเเจ็คนี้ เขาจะกำหนดจำนวนวงเงินของเเต่ละโต๊ะว่า โต๊ะนี้ จำนวนวงเงินที่เล่นน้อยสุด เท่าไหร่ เเละจำนวนวงเงินสูดสุดเท่าไหร่ คนเล่นต้องเล่นไม่เกินจำนวนที่เขาตั้งไว้ คือสรุปเเบบว่าช่วงเเรกที่ทำงานหัวสมองเต็ม เเต่พอเราชินกับงานที่เราทำ เราก็เริ่มสนุก เหมือนไม่ได้ไปทำงานเหมือนไปเล่นเกมส์ พอถึงเวลาก็กลับบ้าน
ตอนเเรกๆๆยังไม่ได้คิดถึงทิป ไม่ได้คิดอะไรมาก เวลาที่ลูกค้าชนะเราก็ควักตังค์จากเเบงค์ในโต๊ะจ่ายไป ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะว่าไม่ใช่เงินเรา ฮ่าๆๆ เวลาลูกค้าเสียก็เก็บตังค์ลูกค้าเข้าเเบงค์ ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะว่าไม่ใช่ตังค์ตัวเอง เเต่พอทำมาได้สักพักหนึ่ง มันเริ่มคิดได้ว่า อ้าวถ้าลูกค้าเสียเเล้วเขาจะจ่ายทิปเราได้ยังไงละ เเต่ เราก็ทำดีที่สุด เราไม่สามารถควบคุมไพ่ได้ เราก็ไม่อยากให้ลูกค้าเสียหรอก เราก็อยากให้เขาได้นั่นละ เเต่ว่า ไอ้เราก็ทำตามหน้าที่ ให้ดีที่สุดเท่านั่นเอง
คนเล่นบางคนก็นิสัยดีมากถึงเเม้จะเล่นเสียก็ยังจ่ายทิปให้เราอีก เเบบว่า คุยกับดิวเลอร์เเล้วถูกคอ อิๆๆ วาสนาของดิวเลอร์ คนเล่นบางคนเวลาลงเงินเล่นมีลงเงินเล่นให้ดิวเลอร์ด้วยเวลาคนเล่นชนะ ดิวเลอร์ก็ชนะได้เงินด้วย ต้องบอกก่อนว่า ดิวเลอร์ได้ค่าชั่วโมงการจ้างงานบวกทิป เเต่ว่าทิปนี้ก็เเชร์กันกับดิวเลอร์ทุกคน ยกเว้นดิวเลอร์ห้องโป๊กเกอร์ ดิวเลอร์ห้องโป๊กเกอร์ก็จะเเชร์เเต่ของห้องโป๊กเกอร์ ขอบอกว่า ดิวเลอร์โป๊กเกอร์นี้เงินดีมาก อันนี้เป็นความฝันเลยอะว่าอยากเป็นดิวเลอร์โป๊กเกอร์ ตอนนี้ก็ขอเก็บเกี่ยวเอาประสบการณ์ตรงนี้ไปก่อนละกัน
พอทำไปสักพัก รู้สึกว่าตัวเองยังช้าอยู่มาก เเละทำผิดบ่อยมาก เวลาพักเบรค เราก็เลยไปดูดิวเลอร์รุ่นพี่ที่เขาทำมานานเเล้ว ว่าเขาดิวยังไง โอ้เเม่เจ้าเขาดิวเร็วมาก สับไพ่เร็ว เก็บไพ่เร็ว เเละไม่ผิดเลย ดูเเล้วขอบอกว่ามืออาชีพอะ ในความรู้สึก ณ ตอนนั่น ประหนึ่งว่า ป๊าดดดด นึกว่านินจา เเบบว่าเร็วอะ ดูเหมือนมืออาชีพ เหมือนในหนัง พอหลังจากนั่นเราก็พยายามเรียนเเบบ ฮ่าๆๆ ประหนึ่งว่า อยากเป็นอย่างเขาบาง เเต่ว่า ของเเบบนี้มันต้องใช้เวลา
เราทำงานที่นี้เจอเพื่อนร่วมงาน คนเอเชียเยอะค่ะ มีทั้งเพื่อนคนลาว คนไทย อเมริกัน เนปาน อินเดีย โดยส่วนมากจะสนิทกับเพื่อนร่วมงานคนบ้านเดียวกัน เเละก็เพื่อนบ้านค่ะ (เพื่อนคนลาว) เพื่อนคนไทยกับเพื่อนคนลาวที่นี้ นิสัยดี น่ารัก ค่ะ เขาชอบทำอาหารอีสาน หรือ อาหารลาวมาเเบ่งบันเราบ่อยๆๆที่ทำงาน เเบบว่าตำปลาร้า ลาบหมู ข้าวเหนียว อะไรประมาณนี้เลย ค่ะ รู้สึกว่าตัวเองไม่ขาดเเคลนอาหารอีสาน หรือ อาหารไทยเลยค่ะ (วาสนาหมาน้อย อย่างเรา อิๆๆ) ก็เเช่บนัวกันไปค่ะ
ณ ปัจจุบันนี้ก็ ทำมาปีกว่าๆๆเเล้ว ได้เวลาทำงานดีขึ้น ตอนนี้ได้เข้างาน ห้าโมงเย็นเลิก ตีหนึ่ง เเต่ตอนนี้เรากำลังทำเรื่องขอย้ายไปทำกะกลางวัน ประสบการณ์ก็เริ่มเยอะขึ้น รู้อะไรๆๆมากขึ้น เรียนรู้เกมส์ได้มากขึ้น ตอนนี้เราก็กลายเป็นรุ่นพี่เเล้ว เพราะว่า มีดิวเลอร์ใหม่ๆๆเข้ามาเยอะมาก เเต่เราก็ยังมีอีกหลายเกมส์ เเละ หลายๆๆอย่างที่เราต้องเรียนรู้ รู้สึกชอบนะ เเต่มันก็มีทั้งวันดี วันไม่ดี บางวันก็เจอลูกค้าอารมณ์ไม่ดี ก็เเย่ไป เเต่บางวันก็เจอลูกค้าอารมณ์ดี บางวันก็ได้อยู่ชั้นไม่สูบบุหรี่ก็ดีไป โล่งปลอด บางวันก็เจอลูกค้าสูบบุหรี่ทั้งโต๊ะ ก็กรรมของเราไป รู้สึกเหมือนตัวเองโดนรมณ์ควัน เเต่ทางคาสิโนก็ดีอุตสาห์มีพัดลมเล็กๆๆติดโต๊ะไว้ให้ดิวเลอร์ เอาไว้เปาควัน ก็ช่วยได้บ้าง(นิดหนึ่ง)
อันนี้มีเรื่อง ฮา มาเล่าให้ฟัง มีลุงฝรั่งคนหนึ่ง เเก่เเล้วละ อายุประมาณห้าสิบกว่าจะหกสิบเเล้วละ เเกมาจีบ บอกเเกไปตั้งหลายรอบเเล้วว่าเเต่งงานเเล้ว เเต่ลุงก็ยังไม่ยอมเเพ้ มาหยอดคำหวานทุกวัน (สามีรู้ค่ะ เล่าให้สามีฟังทุกวัน สามีไม่เครียดค่ะสามีเข้าใจ) วันหนึ่งคนนั่งเล่นเต็มโต๊ะ อยู่ๆๆลุงเเกก็ยิ้มหวานเเล้วถามว่า นี้ยู เคยมีคนบอกยูไหมว่ายูเป็นคนสวย ไอ้เราก็มองหน้าลุง เเล้วทุกคนบนโต๊ะก็เงียบรอฟังว่าเราจะพูดว่ายังไง เราก็อ้าปากบอกลุงว่า มี ทุกวันอะ อันนี้เอาฮานะ ไม่ได้คิดอะไรมาก ลุงเงียบเลยอะ ลุงทำหน้าประมาณว่าเอ้อ เอาเหอะ ฮ่าๆๆๆ เคยมีครั้งหนึ่งกำลังจะกลับบ้านประมาณ ตีหนึ่ง ลุงนั่งเล่นไพ่ที่โต๊ะ พอเห็นว่าเรากำลังจะกลับบ้านลุงตะโกนมาว่า ยูกำลังจะกลับบ้านเหรอ รอก่อน ฉันกำลังจะกลับบ้านพอดี ไอ้เราก็ตะโกนกลับลุง บอกว่า ไม่ได้ ไม่ได้ สามีมารับ ฉันรีบไปก่อนนะ เอาเเบบว่าทุกคนในโต๊ะหัวเราะอะ (อันนี้เอาฮาอะ ไม่ได้คิดอะไรมาก) เเต่ลุงนิสัยดี ให้ทิปเราดีมาก ส่วนมากดิวเลอร์ที่นี้รู้จักลุง ลุงชอบให้ทิปดิวเลอร์เวลาลุงเล่นได้เยอะ ลุงก็ให้ทิปดิวเลอร์เยอะ ประมาณว่า ดิวเลอร์ทุกคนรักลุง
ที่คาสิโนที่เราทำนี้ ส่วนมากมีเเต่เพื่อนร่วมงานดีๆๆ หัวหน้างานส่วนมากก็ใจดี ถือว่าเราโชคดีที่ได้มีโอกาสมาทำงานที่นี้ ไม่นึกไม่ฝันมาก่อนว่าวันหนึ่งเราจะได้มาทำงานนี้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีงานเเบบนี้ด้วย ไม่รู้ว่าตัวเองได้งานนี้ยังไง รู้สึกได้มาเเบบงงๆๆ เเต่พอทำไปทำมากลับรู้สึกชอบ ตอนเเรกที่จะมาทำงานที่นี้เเอบมีคำถามมากมายว่าเอ๊ะ ทำงานที่คาสิโน น่ากลัวอะ อันตรายอะ ถามเพื่อนคนอินเดีย ว่าเเล้วเราจะปลอดภัยไหม เพื่อนคนอินเดียบอกว่า ยูจะกลัวอะไร ยามเยอะมาก เเล้วมีตำรวจประจำที่คาสิโนด้วย พอมาทำจริงๆๆเอ้อมันก็จริงนะ มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราคิดอะ รู้สึกว่าชีวิตคนทำงานที่นี้ ก็เหมือนชีวิตคนทำงานโรงเเรม ทั่วไป มีกะเช้ากะเย็น กะบ่าย เเล้วเเต่ว่าเราจะได้อยู่กะไหน ระบบงานก็ไม่ต่างจากระบบงานโรงเเรม (เคยทำงานโรงเเรมที่เมืองไทยมาก่อน) มีประชุมพนักงาน ประจำปี สวัสดิการณ์ เเละ อะไร หลายๆๆอย่างก็ดี
รู้สึกมันเป็นงานที่ท้าทายความสามารถมาก เเต่เราก็ทำได้อะ ก็ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆๆของชีวิตที่ก้าวมาอีกก้าวหนึ่งละกันเนาะ
Thursday, August 20, 2015
ประสบการณ์ การทำงานคาสิโนที่อเมริกา ตอนที่ 1
ตอนที่ 1
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆๆ เราอยู่รัฐไอโอวาค่ะ เรามีประสบการณ์ การทำงานที่อเมริกามาเล่าสู่กันฟังค่ะ เริ่มเเรกเราขอวีซ่า เรียนเเล้วก็ทำงาน(เลี้ยงเด็ก) มาที่อเมริกา ตั้งเเต่ปี 2008 ณ ปัจจปันปี 2015 ก็คือ 8ปีเเล้ว เราจบปริญญาตรีภาษาอังกฤษจากไทย เเล้วก็ทำงานที่ไทย สักพัก ถึงได้ตัดสินใจขอวีซ่ามาอเมริกา ความรู้สึกตอนนั้นก็คืออยากได้ประสบการณ์ ชีวิตเพิ่ม นั่นคือจุดเปลี่ยนของชีวิต
เรามาเจอเเฟนคนอเมริกันที่นี้ คบหาดูใจกันสักพักเรากับเเฟนก็ตัดสินใจเเต่งงานกัน ณ ปัจจุบันเราได้ กรีนการ์ดเเล้ว ถึงเเม้นเราจะจบภาษาอังกฤษมาจากไทย เเต่พอมาอยู่ที่อเมริกา ภาษาก็เเย่อยู่มากค่ะ เพราะว่าเรียนจบมาตั้งนานเเล้ว เเต่ว่าเราก็ไปเรียนภาษาเพิ่มที่โรงเรียนที่อเมริกานี้เเหละค่ะ จน ณ ปัจจุบัน สื่อสารรู้เรื่อง เเต่ขอบอกว่า ไม่ได้เฟอร์เฟ็คค่ะ เอาเเบบว่าคุยกับฝรั่งรู้เรื่องค่ะ
ยึดอาชีพเลี้ยงเด็กเป็นอาชีพหลักค่ะ หลังจากนั่นก็เปลี่ยนงานตอนปีที่สี่ค่ะ ไปขายน้ำหอมที่ห้าง เเต่ขายได้ไม่นาน ขายได้ประมาณ เจ็ดเดือน ก็ออกค่ะ เพราะว่าได้งานใหม่ที่คาสิโน่ตำเเหน่ง Black Jack Table Games Dealer หรือเรียกสั้นๆๆว่า Dealer หรือภาษาบ้านเราก็เรียกเจ้ามือไพ่นั่นเอง เเบคเเจ็ค (Black Jack) นี้ก็คือเกมส์ไพ่เกมส์หนึ่งที่เราจะต้องเรียนรู้เผื่อที่จะเป็นเจ้ามือไพ่เกมส์นี้ การที่เราจะเป็น เทเบิลเกมส์ ดิวเลอร์ นี้เราต้องเริ่มจาก เกมส์เเบคเเจ็คก่อนเเล้วถึงจะเรียนเกมส์อื่นเพิ่มได้ เเต่ว่า งานเลี้ยงเด็กนี้ก็ทำไปด้วยเป็นครั้งคราวในวันหยุดค่ะ สรุปอาชีพเลี้ยงเด็กนี้ ก็ทำมาเรื่อยๆๆ ตั้งเเต่มาอเมริกาครั้งเเรก จน ถึง ณ ปัจจุบันเลยค่ะ
เรื่องของเรื่องเรามีเพื่อนคนอินเดียทำงานที่คาสิโน เราสนใจก็เลยถามรายละเอียดกับเพื่อนคนอินเดียนี้เเหละค่ะ เขาก็ดีค่ะบอกรายละเอียดให้เราเสร็จสรรพเรียบร้อยว่าถ้าเราสนใจเราต้องทำยังไงบ้าง ต้องสมัครผ่านเว็บไซด เราก็สมัครผ่านเว็บไซดค่ะ ขั้นตอนการสมัครเขาก็จะให้กรอกรายละเอียดประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน เเล้วก็เเนบ Resume ไปด้วยค่ะ สมัครตอนก่อนนอนค่ะ พอตื่นเช้ามา ก็มีสายเข้าเป็นเสียงผู้หญิง บอกว่าโทรมาจากคาสิโน เขาได้รับใบสมัครของเราผ่านทางออนไลน เขาต้องการนัดวัน เวลา เเละสถานที่สัมภาษณ์ หลังจากวางสายเสร็จ อารมณ์ ณ ตอนนั้นขอบอกว่าตื่นเต้นมากค่ะ
พอถึงวันสัมภาษณ์ จริงๆๆ ก็เเต่งตัวเต็มยศไปเลยค่ะใส่สูท รองเท้าคัดชูเเล้วก็รวบผม เอาเเบบว่า เรียบร้อยนิดหนึ่ง พอถึงที่คาสิโน่ เราก็รอหน้าประตูทางเข้า ก็เเลกบัตรกับยามหน้าประตู ยามก็โทรไปบอก ออฟฟิศว่า เรามาถึงเเล้ว สักพักก็มีผู้ชายเเต่งตัวเรียบร้อยเดินลงมาเเล้วเเนะนำตัว เขาบอกให้เราเดินตามเขาไปที่ออฟฟิศ พอถึงตอนสัมภาษณ์ มีผู้ชายสองคน นั่งประกบ เเล้วก็เริ่มเข้าสู่สถาณการณ์สัมภาษณ์เเบบจริงจัง เริ่มจากคำถามว่า ยู รู้จักงานนี้ได้ยังไง เเนะนำตัวหน่อย ข้อดี ข้อเสียของยูคืออะไร คำถามส่วนมากก็เหมือนคำถามสัมภาษณ์งานทั่วๆๆไปค่ะ พอสัมภาษณ์เสร็จเขาก็บอกว่าจะติดต่อกลับมาอีกทีไม่เกินสองอาทิตย์ พออาทิตย์ที่สองเขาก็ติดต่อกลับมา บอกว่าเราผ่านการสัมภาษณ์ ขั้นตอนต่อไปก็คือการฝึกงาน จะเป็นการฝึกงานสามอาทิตย์ จันทร์ ถึง ศุกร์ ฝึกวันละสามชั่วโมง การฝึกงานนี้ต้องมีการทดสอบหลังการฝึกด้วยว่าเราผ่านการฝึกงานไหม
ในวันเเรกที่ไปฝึกงาน มีเพื่อนร่วมฝึกงานด้วยกันห้าคน วันเเรกครูคนฝึกงานถามว่า มีใครไม่รู้จัก Black Jack บ้างเราก็บอกไปตามตรงว่าเราไม่รู้จัก เเต่เขาก็ดีนะเขาให้โอกาศ ขั้นตอนในการฝึกงาน เริ่มจากการหัดเก็บ ชิพ ก่อน ก่อนอื่นต้องขออธิบายสำหรับคนที่ไม่รู้ว่าชิพคืออะไร ชิพก็คือ เหรียญ ปลอม ที่เอาไว้ให้คนที่จะเล่นไพ่ใช้เงินซื้อไอ้ตัวซิพนี้ ในการเล่น เขาไม่ใช้เงินจริงเล่นค่ะ เขาใช้ชิพเล่น ให้เก็บเเบบเร็วๆๆ ให้ได้ในเวลาที่เขากำหนด หลังจากนั่นเขาก็จะสอนสับไพ่ มีไพ่ หก ตลับ ต้องสับให้ทันในเวลาสองนาที ในวิธีการของคาสิโน ซึ่งคาสิโนเเต่ละที่มีวิธีสับไพ่ไม่เหมือนกัน เเล้วหลังจากนั่นเขาก็จะเริ่มสอนเกมส์ เเบคเเจ็คว่า เป็นยังไง ถ้าเราเป็นเจ้ามือเราต้องทำยังไง เวลาฝึกงานส่วนมากก็จะให้ฝึกสับไพ่เเล้วก็จับคู่กับเพื่อนเลนเกมส์เเบคเเจ็ค เกมส์ เเบคเเจ็คนี้ มีกฎว่าถ้าไพ่ของคนเล่นจำนวนเลขตำ่กว่า สิบเจ็ดส่วนมากคนเล่นก็จะขอไพ่ใบต่อไป เเต่ถ้าใครได้ K&A อันนี้เขาเรียกว่า เเบคเเจ็ค หรือ 21 นั่นเอง อันนี้ถือว่าชนะค่ะ A ในเกมส์เเบคเเจ็ค มีค่าเท่ากับ 1 หนึ่ง หรือ 11 ส่วน K,Q,J,10 มีค่าเท่ากับ 10 ซึ่งรายละเอียดของ เกมส์เเบคเเจ็คนี้ยังมีอีกเยอะ อันนี้เอาเเค่คราวๆๆไปก่อนละกันเนาะ ส่วนวิธีการนับเลขก็อย่างเช่น 7+6+8=21,6+8+3=17, A+4+5=20 อันนี้คือตัวอย่างคราวๆๆ เอาเเบบว่าเปิดไพ่มาปุ๊ปเราบอกจำนวนเลขได้ปั๊ป ไม่มีเวลามานั่งคิดว่า เจ็ดบวกหกเป็นเท่าไหร่เเล้วบวกอีกเเปดเป็นเท่าไหร่ ต้องบอกตัวเลขได้โดยอัตโนมัติ ต้องเร็ว คนเล่นบางคนนับเลขไม่ได้ ตอนฝึกงานครูฝึกก็จะสอนกฎในการเล่นเเบคเเจ็ค อย่างเช่น คนเล่นต้องโชว์ภาษามือให้ชัดเจน ว่าจะเอาไพ่เพิ่มหรือว่าจะไม่เอาหรือว่าจะ เอาไพ่เเค่ใบเดียว หรือว่าจะเเยกไพ่ เพราะว่าที่คาสิโนมีกล้อง เวลาที่คนเล่นใช้ภาษามือต้องมั่นใจว่ากล้องที่ทางคาสิโน่ติดตั้งไว้ เห็นภาษามือ เพราะว่าถ้าสมมุติว่าดิวเลอร์ เกิดปัญหา ระหว่างคนเล่นกับดิวเลอร์ อย่างเช่น คนเล่นเสียเเล้วบอกว่าฉันบอกว่าฉันไม่เอาไพ่เเต่ดิวเลอร์ส่งไพ่ให้ ดิวเลอร์จะเรียกหัวหน้างานมาจัดการ หัวหน้างานก็จะโทรไปหาห้องกล้อง เเล้วดูภาพภาษามือย้อนหลัง หลักก็คือจะยึดภาษามือเป็นหลัก อีกทั้งจะมีกฎอื่นด้วย อย่างเช่นเวลาเล่นเเบคเเจ็ค ห้ามผู้เล่น ใช้มือถือเด็ดขาด ถ้าผู้เล่นใช้มือถือ ดิวเลอร์จะหยุดเกมส์ทันที หรือไม่งั้นก็ต้อง ยกเลิก ไพ่ของผู้เล่นที่ใช้มือถือ เเต่คนเล่นส่วนมากจะรู้กฎดีอยู่เเล้ว
พออาทิตย์ที่สอง ครูฝึกตัดเพื่อนร่วมงานออกหนึ่งคนเพราะว่าเขาไม่ผ่านการฝึกงาน เขานับเลขไม่ได้ ใช้เวลานานในการคิดเลข ส่วนตัวเราก็รู้สึกเสียวมากเลยกลัวไม่ผ่านเหมือนกัน เเต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้
พอผ่านการฝึกงานเขาก็จะให้เซ็นต์เอกสารการจ้างงาน ทางคาสิโนก็จะมีใบประกอบวิชาชีพสำหรับดิวเลอร์ให้ เราก็ต้องไปถ่ายรูปติดบัตรพนักงาน ไปวัดตัวตัดชุดยูนิฟอร์มสำหรับพนักงาน ทางพนักงานฝ่ายบุคคลของคาสิโนก็จะพาเดินรอบๆๆคาสิโน ในส่วนที่เป็นโรงเเรม ชั้นหนึ่งก็เป็นร้านอาหาร ชั้นสองก็จะเป็น โต๊ะเกมส์ต่างๆๆ มีหลายเกมส์ รวมทั้ง สล็อตเมอซีนด้วยค่ะ ชั้นสามเป็นชั้น ไม่สูบบุหรี่ค่ะ ก็จะมีโต๊ะ น้อยกว่า ชั้นสองนิดหนึ่ง ส่วนชั้นสี่ก็เป็น ห้อง สำหรับคนเล่น โป๊กเกอร์ค่ะ เเล้วหลังจากนั่นเขาก็จะบอกว่าพนักงานจอดรถตรงไหน ที่จอดรถพนักงานไกลพอสมควรค่ะ ลำบากนิดหนึ่งช่วงหน้าหนาวค่ะ ต้องเดินไกลพอสมควรจากที่จอดรถเข้าตัวอาคารพนักงาน เเต่หน้าร้อนนี้ชอบค่ะ เดินออกกำลังกาย เเล้วหลังจากนั่นทางคาสิโนเลี้ยงข้าวฟรีหนึ่งมื้อค่ะ อิๆๆ อิ่มเลยวันนั้น ได้กินอาหารฟรี เดี๋ยววันนี้ต้องขอจบเเต่เพียงเท่านี้ก่อนละกันค่ะ เดียวเรามาติดตามตอนที่ 2 กันเร็วๆๆนี้ค่ะ
เรามาเจอเเฟนคนอเมริกันที่นี้ คบหาดูใจกันสักพักเรากับเเฟนก็ตัดสินใจเเต่งงานกัน ณ ปัจจุบันเราได้ กรีนการ์ดเเล้ว ถึงเเม้นเราจะจบภาษาอังกฤษมาจากไทย เเต่พอมาอยู่ที่อเมริกา ภาษาก็เเย่อยู่มากค่ะ เพราะว่าเรียนจบมาตั้งนานเเล้ว เเต่ว่าเราก็ไปเรียนภาษาเพิ่มที่โรงเรียนที่อเมริกานี้เเหละค่ะ จน ณ ปัจจุบัน สื่อสารรู้เรื่อง เเต่ขอบอกว่า ไม่ได้เฟอร์เฟ็คค่ะ เอาเเบบว่าคุยกับฝรั่งรู้เรื่องค่ะ
ยึดอาชีพเลี้ยงเด็กเป็นอาชีพหลักค่ะ หลังจากนั่นก็เปลี่ยนงานตอนปีที่สี่ค่ะ ไปขายน้ำหอมที่ห้าง เเต่ขายได้ไม่นาน ขายได้ประมาณ เจ็ดเดือน ก็ออกค่ะ เพราะว่าได้งานใหม่ที่คาสิโน่ตำเเหน่ง Black Jack Table Games Dealer หรือเรียกสั้นๆๆว่า Dealer หรือภาษาบ้านเราก็เรียกเจ้ามือไพ่นั่นเอง เเบคเเจ็ค (Black Jack) นี้ก็คือเกมส์ไพ่เกมส์หนึ่งที่เราจะต้องเรียนรู้เผื่อที่จะเป็นเจ้ามือไพ่เกมส์นี้ การที่เราจะเป็น เทเบิลเกมส์ ดิวเลอร์ นี้เราต้องเริ่มจาก เกมส์เเบคเเจ็คก่อนเเล้วถึงจะเรียนเกมส์อื่นเพิ่มได้ เเต่ว่า งานเลี้ยงเด็กนี้ก็ทำไปด้วยเป็นครั้งคราวในวันหยุดค่ะ สรุปอาชีพเลี้ยงเด็กนี้ ก็ทำมาเรื่อยๆๆ ตั้งเเต่มาอเมริกาครั้งเเรก จน ถึง ณ ปัจจุบันเลยค่ะ
เรื่องของเรื่องเรามีเพื่อนคนอินเดียทำงานที่คาสิโน เราสนใจก็เลยถามรายละเอียดกับเพื่อนคนอินเดียนี้เเหละค่ะ เขาก็ดีค่ะบอกรายละเอียดให้เราเสร็จสรรพเรียบร้อยว่าถ้าเราสนใจเราต้องทำยังไงบ้าง ต้องสมัครผ่านเว็บไซด เราก็สมัครผ่านเว็บไซดค่ะ ขั้นตอนการสมัครเขาก็จะให้กรอกรายละเอียดประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน เเล้วก็เเนบ Resume ไปด้วยค่ะ สมัครตอนก่อนนอนค่ะ พอตื่นเช้ามา ก็มีสายเข้าเป็นเสียงผู้หญิง บอกว่าโทรมาจากคาสิโน เขาได้รับใบสมัครของเราผ่านทางออนไลน เขาต้องการนัดวัน เวลา เเละสถานที่สัมภาษณ์ หลังจากวางสายเสร็จ อารมณ์ ณ ตอนนั้นขอบอกว่าตื่นเต้นมากค่ะ
พอถึงวันสัมภาษณ์ จริงๆๆ ก็เเต่งตัวเต็มยศไปเลยค่ะใส่สูท รองเท้าคัดชูเเล้วก็รวบผม เอาเเบบว่า เรียบร้อยนิดหนึ่ง พอถึงที่คาสิโน่ เราก็รอหน้าประตูทางเข้า ก็เเลกบัตรกับยามหน้าประตู ยามก็โทรไปบอก ออฟฟิศว่า เรามาถึงเเล้ว สักพักก็มีผู้ชายเเต่งตัวเรียบร้อยเดินลงมาเเล้วเเนะนำตัว เขาบอกให้เราเดินตามเขาไปที่ออฟฟิศ พอถึงตอนสัมภาษณ์ มีผู้ชายสองคน นั่งประกบ เเล้วก็เริ่มเข้าสู่สถาณการณ์สัมภาษณ์เเบบจริงจัง เริ่มจากคำถามว่า ยู รู้จักงานนี้ได้ยังไง เเนะนำตัวหน่อย ข้อดี ข้อเสียของยูคืออะไร คำถามส่วนมากก็เหมือนคำถามสัมภาษณ์งานทั่วๆๆไปค่ะ พอสัมภาษณ์เสร็จเขาก็บอกว่าจะติดต่อกลับมาอีกทีไม่เกินสองอาทิตย์ พออาทิตย์ที่สองเขาก็ติดต่อกลับมา บอกว่าเราผ่านการสัมภาษณ์ ขั้นตอนต่อไปก็คือการฝึกงาน จะเป็นการฝึกงานสามอาทิตย์ จันทร์ ถึง ศุกร์ ฝึกวันละสามชั่วโมง การฝึกงานนี้ต้องมีการทดสอบหลังการฝึกด้วยว่าเราผ่านการฝึกงานไหม
ในวันเเรกที่ไปฝึกงาน มีเพื่อนร่วมฝึกงานด้วยกันห้าคน วันเเรกครูคนฝึกงานถามว่า มีใครไม่รู้จัก Black Jack บ้างเราก็บอกไปตามตรงว่าเราไม่รู้จัก เเต่เขาก็ดีนะเขาให้โอกาศ ขั้นตอนในการฝึกงาน เริ่มจากการหัดเก็บ ชิพ ก่อน ก่อนอื่นต้องขออธิบายสำหรับคนที่ไม่รู้ว่าชิพคืออะไร ชิพก็คือ เหรียญ ปลอม ที่เอาไว้ให้คนที่จะเล่นไพ่ใช้เงินซื้อไอ้ตัวซิพนี้ ในการเล่น เขาไม่ใช้เงินจริงเล่นค่ะ เขาใช้ชิพเล่น ให้เก็บเเบบเร็วๆๆ ให้ได้ในเวลาที่เขากำหนด หลังจากนั่นเขาก็จะสอนสับไพ่ มีไพ่ หก ตลับ ต้องสับให้ทันในเวลาสองนาที ในวิธีการของคาสิโน ซึ่งคาสิโนเเต่ละที่มีวิธีสับไพ่ไม่เหมือนกัน เเล้วหลังจากนั่นเขาก็จะเริ่มสอนเกมส์ เเบคเเจ็คว่า เป็นยังไง ถ้าเราเป็นเจ้ามือเราต้องทำยังไง เวลาฝึกงานส่วนมากก็จะให้ฝึกสับไพ่เเล้วก็จับคู่กับเพื่อนเลนเกมส์เเบคเเจ็ค เกมส์ เเบคเเจ็คนี้ มีกฎว่าถ้าไพ่ของคนเล่นจำนวนเลขตำ่กว่า สิบเจ็ดส่วนมากคนเล่นก็จะขอไพ่ใบต่อไป เเต่ถ้าใครได้ K&A อันนี้เขาเรียกว่า เเบคเเจ็ค หรือ 21 นั่นเอง อันนี้ถือว่าชนะค่ะ A ในเกมส์เเบคเเจ็ค มีค่าเท่ากับ 1 หนึ่ง หรือ 11 ส่วน K,Q,J,10 มีค่าเท่ากับ 10 ซึ่งรายละเอียดของ เกมส์เเบคเเจ็คนี้ยังมีอีกเยอะ อันนี้เอาเเค่คราวๆๆไปก่อนละกันเนาะ ส่วนวิธีการนับเลขก็อย่างเช่น 7+6+8=21,6+8+3=17, A+4+5=20 อันนี้คือตัวอย่างคราวๆๆ เอาเเบบว่าเปิดไพ่มาปุ๊ปเราบอกจำนวนเลขได้ปั๊ป ไม่มีเวลามานั่งคิดว่า เจ็ดบวกหกเป็นเท่าไหร่เเล้วบวกอีกเเปดเป็นเท่าไหร่ ต้องบอกตัวเลขได้โดยอัตโนมัติ ต้องเร็ว คนเล่นบางคนนับเลขไม่ได้ ตอนฝึกงานครูฝึกก็จะสอนกฎในการเล่นเเบคเเจ็ค อย่างเช่น คนเล่นต้องโชว์ภาษามือให้ชัดเจน ว่าจะเอาไพ่เพิ่มหรือว่าจะไม่เอาหรือว่าจะ เอาไพ่เเค่ใบเดียว หรือว่าจะเเยกไพ่ เพราะว่าที่คาสิโนมีกล้อง เวลาที่คนเล่นใช้ภาษามือต้องมั่นใจว่ากล้องที่ทางคาสิโน่ติดตั้งไว้ เห็นภาษามือ เพราะว่าถ้าสมมุติว่าดิวเลอร์ เกิดปัญหา ระหว่างคนเล่นกับดิวเลอร์ อย่างเช่น คนเล่นเสียเเล้วบอกว่าฉันบอกว่าฉันไม่เอาไพ่เเต่ดิวเลอร์ส่งไพ่ให้ ดิวเลอร์จะเรียกหัวหน้างานมาจัดการ หัวหน้างานก็จะโทรไปหาห้องกล้อง เเล้วดูภาพภาษามือย้อนหลัง หลักก็คือจะยึดภาษามือเป็นหลัก อีกทั้งจะมีกฎอื่นด้วย อย่างเช่นเวลาเล่นเเบคเเจ็ค ห้ามผู้เล่น ใช้มือถือเด็ดขาด ถ้าผู้เล่นใช้มือถือ ดิวเลอร์จะหยุดเกมส์ทันที หรือไม่งั้นก็ต้อง ยกเลิก ไพ่ของผู้เล่นที่ใช้มือถือ เเต่คนเล่นส่วนมากจะรู้กฎดีอยู่เเล้ว
พออาทิตย์ที่สอง ครูฝึกตัดเพื่อนร่วมงานออกหนึ่งคนเพราะว่าเขาไม่ผ่านการฝึกงาน เขานับเลขไม่ได้ ใช้เวลานานในการคิดเลข ส่วนตัวเราก็รู้สึกเสียวมากเลยกลัวไม่ผ่านเหมือนกัน เเต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้
พอผ่านการฝึกงานเขาก็จะให้เซ็นต์เอกสารการจ้างงาน ทางคาสิโนก็จะมีใบประกอบวิชาชีพสำหรับดิวเลอร์ให้ เราก็ต้องไปถ่ายรูปติดบัตรพนักงาน ไปวัดตัวตัดชุดยูนิฟอร์มสำหรับพนักงาน ทางพนักงานฝ่ายบุคคลของคาสิโนก็จะพาเดินรอบๆๆคาสิโน ในส่วนที่เป็นโรงเเรม ชั้นหนึ่งก็เป็นร้านอาหาร ชั้นสองก็จะเป็น โต๊ะเกมส์ต่างๆๆ มีหลายเกมส์ รวมทั้ง สล็อตเมอซีนด้วยค่ะ ชั้นสามเป็นชั้น ไม่สูบบุหรี่ค่ะ ก็จะมีโต๊ะ น้อยกว่า ชั้นสองนิดหนึ่ง ส่วนชั้นสี่ก็เป็น ห้อง สำหรับคนเล่น โป๊กเกอร์ค่ะ เเล้วหลังจากนั่นเขาก็จะบอกว่าพนักงานจอดรถตรงไหน ที่จอดรถพนักงานไกลพอสมควรค่ะ ลำบากนิดหนึ่งช่วงหน้าหนาวค่ะ ต้องเดินไกลพอสมควรจากที่จอดรถเข้าตัวอาคารพนักงาน เเต่หน้าร้อนนี้ชอบค่ะ เดินออกกำลังกาย เเล้วหลังจากนั่นทางคาสิโนเลี้ยงข้าวฟรีหนึ่งมื้อค่ะ อิๆๆ อิ่มเลยวันนั้น ได้กินอาหารฟรี เดี๋ยววันนี้ต้องขอจบเเต่เพียงเท่านี้ก่อนละกันค่ะ เดียวเรามาติดตามตอนที่ 2 กันเร็วๆๆนี้ค่ะ
Subscribe to:
Posts (Atom)