Friday, September 18, 2015

เรื่องเล่า ฮาๆๆ จาก ซานเดียเอโก้ (San Diego, CA)









ประมาณ สามีปีที่เเล้วได้มีโอกาสติดตามสามีไปทำงาน ที่ ซานเดียเอโก้ รัฐ เเคลิฟลอเนีย (Sandiego, California) เผอิญตอนนั่นสามีเป็นครู ต้องไปทำงาน สอน นักศึกษาที่ กำลังเตรียมตัวสอบเข้าเป็นนักศึกษาเเพทย์ เรียกว่าโปรเเกรม Medical College Admission Test (MCAT)

สามีถามหัวหน้าว่า เเฟนฉันว่างหนึ่งเดือน เอาเเฟนไปด้วยได้ไหม หัวหน้าสามีใจดีมากเลย เขาบอกว่าได้ พอไปถึง ซานเดียเอโก้ เขามีที่พักฟรี อาหารฟรี  ช่วงเวลาที่อยู่ที่นั่น สามีเราก็ทำงาน ส่วนเราก็ ทำตัวเนียนว่ามาทำงานกับเขาด้วย  เเต่เปล่าหรอก เราไม่ได้ทำงาน  ว่างไปวันๆๆ วันไหนอารมณ์ดีก็เดินออกจากห้องไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ทะเลใกล้ๆๆ ที่ที่เรากับสามีอยู่ อยู่ใกล้ทะเล ทะเลสวยมาก สะอาด อากาศดี โชคดีที่สามีได้ที่ทำงานทำเลดี หรือถ้าวันไหนอารมณ์เเบบว่าอยากไปช็อปปิ้งก็ขับรถไปช็อปปิ้งคนเดียว เเบบเหงาๆๆ เพราะว่าสามีต้องทำงาน สามีจะหยุดเสาร์อาทิตย์ นั่นคือช่วงเวลาทองของเราเลย เพราะว่ารอสามีพาไป กินอาหารไทย อาหารไทยที่นั่นอร่อยมากเลย มีร้าน อาหารไทย อาหารอีสานเยอะค่ะ มีซุปหน่อไม้ขายด้วยค่ะ ส้มตำรสชาติ ได้ใจสุดๆๆค่ะ ถ้ามีโอกาสกลับไปอีก ต้องไม่พลาดสั่งซุปหน่อไม้อีกเเน่นอนค่ะ สามีก็ชอบกินซุปหน่อไม้ค่ะ (ฝรั่งกลายพันธุ์ ชอบกินส้มตำใส่ปลาร้า ลาบไก่ ข้าวเหนียว ชอบมากค่ะ)

มีครั้งหนึ่งในช่วงวันหยุดของสามีเรา สามีเราพาเราขับรถจาก ซานเดียเอโก้ (San Diego, CA)ไปเยี่ยมเพื่อนสามีที่ ลอสเเองเจอลิส (Los Angeles, CA )ใช้เวลาขับรถประมาณ สองชั่วโมงกว่าๆๆ เเล้วเเต่ว่ารถติดมากน้อยเเค่ไหน เเต่ขอบอกว่ารถติดไม่เเพ้เเมืองไทยค่ะ นอนบ้านเพื่อนสามีหนึ่งคืน เเล้ว เช้าวัดถัดมาก็บอกลาเพื่อนสามีเเละครอบครัว เเล้ว มุ่งหน้าไป ในตัวเมือง ลอสเเองเจอลิส ไป ไทยทาวน์ค่ะ โอ้เเม่เจ้า อาหารไทยเยอะมาก ไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือ ส้มตำ ยำวุ้นเส้น ขอบอกว่า ท้องเเทบเเตกค่ะ

บางอาทิตย์ที่หยุด ในบรรดาเพื่อนเเฟนที่หยุดพร้อมกัน เขาก็จะมีปาร์ตี้ พากันไปกินข้าวไปเที่ยวในตัวเมือง ซานเดียเอโก้ (San Diego, CA) เราจำได้ว่าวันนั่นคือ คืนวันเสาร์ ทั้งหัวหน้าเเฟน เเละก็เพื่อนเเฟน เเฟนเรา เเล้วก็รวมทั้งเราได้ไปเที่ยวผับในตัวเมือง ซานเดียเอโก้ (San Diego, CA) โดยหัวหน้าเเฟนเราได้เช่ารถตู้สิบเอ็ดที่นั่ง ทั้งหมดก็สิบสองคนประมาณว่า นั่งเบียดๆๆกันไป วันนั่นจำได้ว่าฮามาก ทุกคนสนุกเต็มที่ ดื่มกันเต็มที่ เต้น ก้นเต็มที่ พอถึงเวลากลับบ้าน ปรากฎว่าทุกคน เมาบ้าง ดื่มเยอะมากจนขับรถไม่ไหวบ้าง ไม่มีใครสามารถขับรถกลับที่พักได้ เเฟนเราบอกว่า เราไม่ได้ดื่มไม่มีเเอลกอฮอลในสายเลือดเลย ขับได้ ณ ความรู้สึกตอนนั่น คิดในใจว่า เฮ้ย จริงเหรอ นี้ต้องเป็นฉันเหรอ ที่ต้องขับรถรับผิดชอบสิบสองชีวิตกลับที่พัก ขอมึนเเป๊ปปป อย่าว่าเเต่เรา ทุกคนก็มึนพอกัน บางคนก็ไม่มั่นใจในตัวเราว่าเราจะพาทั้งสิบสองชีวิตกลับที่พักอย่างปลอดภัยหรือเปล่า (เราก็ไม่มั่นใจในตัวเองเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ) สรุปทางเลือกสุดท้าย ก็ต้องเลือกเราให้ขับรถพาทุกคนกลับที่พัก ฮ่าๆๆๆ ไอ้ตอนฮา ก็ตอนขับรถกลับที่พักนี้เเหละ คิดดูฝรั่ง เเต่ละคนตัวโตๆๆทั้งนั่น น้ำหนักก็ อืมนะ เเล้วสิบสองคน พอจับพวงมาลัย เลื่อนรถออกจากที่รู้สึกได้ทันทีว่า เฮ้ยรถมันหนักมากกก ฮ่าๆๆ ยังไม่พอ ตอนนั่นเป็นเวลาเกือบตีสาม ถนนมันก็มึดอะนะ คนเมาก็ต้องฝืนไม่เมา บอกทางให้เราขับตามฮ่าๆๆ ยิ่งเวลาที่รถขึ้นเนินนะ รู้สึกว่ารถมันเหมือนเต่าอะ ทั้งๆๆที่เราเหยียบคันเร่งสุดๆๆเเล้วเเต่มันก็ฝืดอยู่ดี เพื่อนเเฟนบอกว่า ยูต้องเหยียบคันเร่งอีก ไอ้เราก็บอกว่า เนี่ยฉันเหยียบสุดๆๆเเล้วนะ มันได้เท่านี้ละ ฮ่าๆๆ ยังไม่พอ พอขับสวนกับรถตำรวจนะ ทุกคนในรถเกร่งกันเป็นเเถว ฮ่าๆๆ อยากจะบอกว่า เฮ้ยไม่ต้องเกร่ง เรามีใบขับขี่ เราไหวอยู่ ฮ่าๆๆ เเต่ในใจลึกๆๆ อยากจะร้องตะโกนดังๆๆว่า เฮ้ย กลัวเหมือนกันนะ กลัวโดนตำรวจเรียกเเล้วเจอ ซากคนเมาในรถ ฮ่าๆๆ ยังไม่พอ พอขึ้นทางด่วน เขาให้ขับความเร็ว หกสิบห้า ไอ้เราก็มองไม่เห็นทาง เเละด้วยความที่เเบกมาสิบสองชีวิตในรถ ก็ไม่กล้าขับเร็ว ประกอบกับรู้สึกว่ารถมันหนักมากกก เราก็ขับ หกสิบ คนที่เมาในรถต้องบอกว่ายูต้องเร่งความเร็วขึ้นอีกนะ ระดับความเร็วบนทางด่วนมันหกสิบห้า สรุปวันนั่นเผื่อจะถึงที่พักเล่นเอาเเต่ละคนหายเมากันทีเดียว ลุ้นเเล้วลุ้นอีกว่าจะถึงที่พักไหม เเต่สุดท้ายทุกเราก็พาขี้เมาทั้งหลายกลับถึงที่พักอย่างปลอดภัย ฮ่าๆๆๆ อันนี้ก็ฮากันไป

ด้วยความที่เรากินอยู่ฟรี ว่างไปวันๆๆ ทำให้คนที่เขาทำงานเห็นเเล้วอิจฉา หัวหน้างานสามีก็เลยบอกเราว่า ฉันจะให้ยูไปดูลายมือให้พวกเด็กนักศึกษา นะ สักประมาณ หนึ่งอาทิตย์ วันละชั่วโมง ฮ่าๆๆๆ คือว่าสามีไปเล่าให้หัวหน้างานฟังว่า เราดูลายมือเป็น เอ้ออออ ขอ เอ้อออ ยาวๆๆ หน่อยค่ะ คือขอมึนเเป๊ป เเต่ด้วยความที่ไหนๆๆเขาก็ใจดี ให้ที่อยู่ทีพักฟรี กับเราตั้งหนึ่งเดือน ณ จุด จุดนั่นเเล้วก็ไม่รู้จะปฎิเสธยังไง ในใจคิดว่า ลองดูก็ได้นะ ขำๆๆ หัวหน้าเเฟนก็ใจดีมากเลย เตรียมป้าย สถานที่ไว้ให้เรียบร้อย

พอถึงวันจริงที่เราต้องดูลายมือให้นักศีกษา เขาบอกว่าเราต้องเริ่มดูลายมือ ตอน หกโมง ยันทุ่มหนึ่ง ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง วันนั่นอย่างฮาอะ ให้สามีนั่งเป็น ประชาสัมพันธ์หน้าห้อง เราก็นั่งรอเด็กนักศึกษาที่จะดูลายมืออยู่ในห้อง ในห้องก็จะมีเทียน อยู่สองอัน จุดไฟด้วย ประมาณว่าให้ได้บรรยากาศ ตอนเเรกคิดว่าอาจจะมีคนดูบ้าง สัก พอประมาณ เเต่ผิดคาด มีเด็กนักศึกษามานั่งรอดูลายมือเพียบ ฮ่าๆๆๆ จะฮาไปไหน ไม่น่าเชื่อว่าฝรั่งจะให้ความสนใจ เรื่องเเบบนี้ เเล้วโดยเฉพาะคนที่จะสมัครเรียนเป็นหมอ อ่าๆๆ เเอบฮาในใจอีกเเล้ว ความรู้สึก ณ ตอนนั่นเหมือนกับว่า เอ๊ะ เหมือนเขาอยากลองของอะ อยากรู้ ว่า ยูทำอะไร ยังไง เเต่สนุกดี บางคนก็ตรงมากถึงมากที่สุด บางคน ก็ไม่มีอะไรให้ดูเลย ชีวิตราบเรียบมาก ณ วันนั่น คือเเบบว่าคิวเต็มอะ ต้องปิดสำนักดูลายมือ เมื่อถึงเวลา ฮ่าๆๆ สำหรับคนที่มาไม่ทันก็ต้อง มาวันถัดไปค่ะ

ส่วนมากมีเเต่เด็กนักศึกษามาดู ส่วนพวก ครูที่สอน หรือว่าเพื่อนสามีไม่มีใครมาดูด้วยเลยสักคน จนวันหนึ่งไปนั่งกินข้าวเที่ยงด้วยกัน อยู่ๆๆเพื่อนเเฟนก็เเบมือ มาให้เราดูลายมือให้ ไอ้เราก็ ดูลายมือเขาเเล้วก็พูดไปเรื่อยตามเส้นลายมือ ยังพูดไม่หมดเลย เขาชักมือกลับเเล้วบอกพอๆๆ ทุกคนทั้งโต๊ะหัวเราะอะ คือเราพูดว่า อืม ยูเป็นคนเจ้าชู้อะ จะมีเเฟนหลายคน มีไปเรื่อย เท่านั่นละ เขาทำหน้าไม่ถูก เพราะที่เราพูดมันเป็นความจริง ฮ่าๆๆๆ อันนี้ก็ขำๆๆค่ะ ดูตามเส้นลายมือ

ที่จริงไม่ได้เก่งเรื่องดู ลายมือหรอกค่ะ พอดูได้บ้าง เเต่จุดประสงค์ของเรื่องก็คือ คลายเครียดให้นักศึกษาค่ะ เพราะว่าเเต่ละคนเรียนหนักกันน่าดู พอถึงวันหยุดเเต่ละคน ก็จะมีไปทำกิจกรรม วิ่ง หรือ บางคนก็ประมาณว่าเรียน เเละก็อ่านหนังสืออยู่ตลอดเวลา

ก็ถือว่าเป็นเรื่องราว เเละประสบการณ์ดีๆๆ ในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตที่น่าจดจำค่ะ

Tuesday, September 8, 2015

Monday, September 7, 2015

เก็บเห็ด โมเรล (Morel Mushrooms) ที่ไอโอวา






สวัสดีค่ะ เพื่อนๆๆ วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องเก็บเห็ด โมเรล (Morel Mushrooms) ที่รัฐไอโอวา ให้เพื่อนๆๆฟังค่ะ 

อยู่เมืองนอกก็มีเทศกาลเก็บเห็ดเหมือนกันนะค่ะ ไม่ใช่มีเฉพาะเเต่เมืองไทยบ้านเรา ขอบอกก่อนนะค่ะว่าเราเป็นเด็กต่างจังหวัดค่ะ เด็กอีสานค่ะ จังหวัดนครพนม เป็นเด็กบ้านนอกค่ะ ตอนเด็กๆๆเเถวบ้านนอกก็จะมีฤดูเก็บเห็ด เราชอบเก็บเห็ดมากค่ะ มันเป็นอะไรที่สนุกมากกก ขอย้ำว่า สนุก มากกกค่ะ พอได้มีโอกาสมาอยู่อเมริกา ก็ยังมีโอกาสไปเก็บเห็ดอีก ตื่นเต้นมากค่ะ เพราะว่าไม่ได้เก็บเห็ดมานานมากเเล้ว พอเริ่มโตมา เเบบเเผนชีวิตก็เปลี่ยนค่ะ จากที่เคยทำตอนเราเด็กๆๆ ก็ไม่ได้ทำเเล้วค่ะ เเต่ลึกๆๆ ก็ยังคิดถึงประสบการณ์ตอนเด็กๆๆอยู่ค่ะ มันเป็นอะไรที่สนุกค่ะ รู้สึกว่าตัวเองมีประสบการณ์เกี่ยวกับป่าเยอะค่ะ เล่าให้เเฟนฟัง เเฟนยังบอกเลยว่า ชีวิตตอนเด็กยูสนุกเนาะ ฮ่าๆๆ ว่าเเล้วก็เข้าเรื่องเลยเนาะ

ตอนที่เราเริ่มทำงานที่คาสิโน เราได้มีโอกาสรู้จักกับเพื่อนดิวเลอร์ผู้หญิงด้วยกัน เป็นคนอเมริกันค่ะ เจอกันวันเเรกตอนเริ่มฝึกงาน ก็เริ่มสนิท เขานิสัยดีค่ะ ก็คุยกันนั่นนี่นู้นไปเรื่อย เขาก็เล่าให้ฟังว่าเขากับเเฟน ชอบทำอะไรในวันหยุด เหมือนคุยกันเเลกเปลี่ยนประสบการณ์กันนะค่ะ พอเล่าไปนั่นนี่นู้น เขาก็บอกว่า อ้อ ฉันชอบเก็บเห็ดด้วย พอได้ยินคำว่าเก็บเห็ดเท่านั่นละค่ะ เราหูผึง ทันทีเลย เเบบว่า เฮ้ย มันใช่อะ มาถูกทางเเล้วอะ เราก็รีบถามทันทีเลย ว่า เห็ดอะไร ยู ไปเก็บที่ไหน คราวหน้าถ้า ยู กับ เเฟน จะไปอีก ขอฉันไปด้วยได้ไหม พอเราบอกว่าเราสนใจเท่านั่นละ เขาก็ดีมากเลย เขาก็บอกว่า ได้สิ เดี๋ยวคราวหน้า ฉันจะ โทรไปชวนนะ พอคุยกันเสร็จ ประกอบกับเริ่มงานใหม่ ชีวิตก็ยุ่งวุ่นวาย จน ลืม เเต่เเล้ววันหนึ่งเขาก็บอกว่า โอเค ฉันเตรียมเเผนไว้เเล้วนะ ว่า วันหยุด ของเราที่จะถึงนี้ เราจะไปเก็บเห็ดกัน ก็จะมี ฉัน สามี ฉัน เเล้วก็ หัวหน้าผู้หญิงที่ทำงานด้วย หนึ่งคน เเล้วก็ยูกับสามียู โอเค ไหม พอเขาบอกเท่านั่นละ เรารีบบอกว่าโอเคเลย บังเอิญว่าวันหยุดเรา กับ วันหยุด เพื่อนผู้หญิงคนนี้ตรงกัน 

เห็ด โมเรล (Morel Mushrooms) นี้จะมี ช่วง ฤดู ใบไม้ผลิ (Spring) ก็จะเป็นช่วงปลายเดือน มีนาคม ถึง เดือน  พฤษภาคม รูปร่างของเห็ดก็จะคล้ายๆๆกับถั่วลิสง จะมีทั้งสี น้ำตาล ดำ รสชาติ อร่อย รสชาติเหมือนเนื้อ สเต็ก ที่สำคัญ ราคาเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เพื่อนเราเล่าให้ฟังว่า มีคนเก็บเห็น โมเรล (Morel Mushrooms) นี้ขายเป็นอาชีพด้วยนะ ส่วนมากเห็ด โมเรล จะเกิด บริเวณ ใต้ต้น โอ๊ค (Oak) ต้น เอสเพ็น (Aspen) ยิ่งเฉพาะ เวลาที่วันไหนอากาศร้อน เเละ ถ้าวันไหนฝนตก เช้าของอีกวัน เตรียมตัวไปหาเห็ดได้เลย เพื่อนเราบอกว่า มันจะออกเเถวที่มันเคยออก เป็นประจำ ถ้าปีที่เเล้วเคยเก็บตรงไหน ปีถัดไปก็มาหาบริเวณที่เดิมนี้เเหละ 

ว่าเเล้ว วันหาเห็ดก็มาถึง เรากับสามีขับรถไปเจอเพื่อนเราที่บ้าน พอไปถึงเพื่อนเราบอกว่า หัวหน้างานผู้หญิงอีกคน มาไม่ได้ ติดธุระ สรุปวันนั่นก็มีเรา สามี เเล้วก็ เพื่อนเรากับสามีเขา เพื่อนเราก็บอกให้เรากับสามีขับรถตาม เขากับสามีไปที่ป่าเห็ด ก็อยู่ไม่ไกลบ้านเขาเท่าไหร่ ประมาณว่า อยู่หลังบ้าน เเต่ ขับรถไปจะ ง่าย เเละ เร็วกว่ามาก เหมือนกับว่า เป็นป่าที่ติดกับไร่ข้าวโพด เเต่ตอนนั่น เขายังไม่เริ่มปลูกข้าวโพด เเต่เป็นไร่ที่เหลือเเต่ซาก ข้าวโพด จากปีที่เเล้ว พอไปถึง ก็จะมีที่ให้จอดรถ เเล้วก็ต้องเดินต่อไปอีก สักพัก วันนั่นอากาศร้อน เเละเเดดเเรง เเต่ด้วยความที่เรากลัว เเดด กลัว ดำ (คลำอยู่เเล้ว เเต่กลัว มัน คลำ กว่าเดิม) เราก็เลยใส่เสื้อเเขนยาว กางเกงยีนส์ขายาว เเฟนเราเเต่งตัว ซิว มาก เเบบว่า เสื้อ เเขนสั้น กางเกงขาสั้น ฝรั่งนะเนาะ เเบบว่า คิดว่าอากาศคงร้อน เเต่งเเบบสบายตัวเเล้วกัน พอไปถึงก็ สี่โมงกว่าเเล้ว เเต่ว่าเเดดยังเเรงอยู่ โอ้เเม่เจ้า ต้องบุกป่า คิดในใจโชคดีนะนี้ ที่ใส่ขายาวมา ไม่งั้น ขาโดน ต้นไม้ เล็กๆๆ เเละ เศษไม้เเถวนั่น ข่วนเเน่ ปรากฎว่าเเฟน ก็ ซวยไป ผิดคาด ใส ขาสั้นไป โดนข่วนจนขาลาย 

พอไปถึงป่าเห็ด เรา  ก็เเยกกันหาเห็ด เเต่ ก็ไม่ได้เเตกกลุ่ม ประมาณว่า เเยกกันเเต่ยังมองเห็นกัน ส่งเสียงเรียก ตลอดเวลา กลัว หลงป่า ไอ้เราก็ไม่เคยเห็นไอ้เห็ด โมเรล นี้มา ก่อน ว่าหน้าตามันเป็นยังไง เเต่ดีที่เรา หาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตไปก่อนว่า หน้าตา เห็ดเป็นยังไง เราเป็นคนเห็นเห็ดเป็นคนเเรก มันดอกเล็กมาก ซ่อน ตัวอยู่ใต้ใบไม้ ยอดเห็ด โผล่ขึ้นมานิดหนึ่ง ความรู้สึกตอนนั่นมันเหมือน ได้ย้อนรำลึกความหลังไปสมัยตอนเด็ก ฮ่าๆๆๆ เเต่มันสนุกอะ รู้สึกปลดปล่อย ดืมด่ำ กับ ธรรมชาติ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เเบบว่า ชอบอะ พอเจอเห็ดดอกเเรก เราก็ตะโกนเสียงดังให้คนอื่นได้ยินว่า เราเจอเห็ด เเฟนเรา กับ เพื่อนเราก ก็มาดูว่า ใช่หรือเปล่า ปรากฎว่ามันใข่อะ เเต่ดอกไม่ใหญ่เท่าไหร่ เเล้วก็เดินหาต่อไปอีกสักพัก เราก็เจออีก เราก็ตะโกนว่าเจอเห็ออีก สรุป เราเจอเห็ดสามดอกเเล้ว เเฟนเรายังไม่ได้สักดอก ขอเม้าท์ สามี มี เเอบ เคือง ที่หาเห็ดไม่ได้ ฮ่าๆๆ ฮาอะ หลังจากนั่น สามีของเพื่อนเรา ก็พาเดินเข้าไปในป่าลึกอีก เขาบอกว่าวันก่อนเขามาหาทีหนึ่งเเล้ว เเต่ว่ามันยังดอกเล็กอยู่ เขาก็เก็บเอาดอกเล็กๆๆ ย้าย ไปไว้ใต้ต้นไม้ที่เขาเก็บเป็นประจำ เเล้วเอาใบไม้ปิด พวกเราก็เดินตามเขาไป ที่ต้นไม้ที่เขาบอก พอไปถึง โอ้เเม่เจ้า พวกเราเจอกลุ่มเห็ด เยอะมาก เเต่ละคนก็จะมีถุงพลาสติก คนละใบ เอาไว้ใส่เห็ด ขนาดว่า ไปเจอเห็ดเป็นกลุ่ม เเบบนั่นนะ เราก็เก็บเพลินเลยดิ เเต่เเฟนเราหาไม่เจอสักดอก ฮ่าๆๆ เราต้องไปชื้ให้เเฟนเก็บ ฮ่าๆๆ อนิจจัง ไม่งั้น ฮี มี เคือง ที่เก็บเห็ดไม่ได้สักดอก เเต่ละคนก็ยุ่ง ในการเก็บเห็ด เพลินเชียว
สรุปก็ได้ กันคนละพอประมาณ 


สรุปวันนั่นก็ใช้ เวลาในการเก็บเห็ด ประมาณ เกือบสองชั่วโมง เเต่ รู้สึกไม่นานเลย เพราะว่าชอบ รู้สึกเพลินดี วันนั่นก็ได้เห็ดกลับบ้าน พอประมาณ เพื่อนเราก็ดีมาก อุตสาห์บอกว่าต้องทำยังไงกับเห็ด เขาก็บอกวิธี ล้างเห็ด เเล้วก็วิธี นำเห็ดไปปรุงอาหาร ว่าต้องทำยังไง ก็คือ ต้องล้าง ประมาณสักสองครั้ง เเล้ว เเช่ น้ำเกลือ เอาเข้าตู้เย็น เเช่ข้ามคืน พอตอนเช้ามาก็ ล้างอีกที เเล้ว ก็ ผ่าครึ่ง เห็ด เเล้ว บดขนมปังเเค็กเกอร์ ผสมกับไข่คลุกให้เข้ากัน เเล้ว เอาเห็ดลงไปคลุก หลังจากนั่นก็ทอดเห็ด กับ บัตเตอร์ รสชาติอร่อยมากอะ เเต่เรา ชอบ ที่ จะทอดเฉพาะเห็ด กับบัตเตอร์มากกว่า รสชาติ เห็ดก็จะออกเค็มๆๆ มันส์ๆๆ หอมกลิ่นบัตเตอร์ นิดหนึ่ง สรุปก็คืออร่อยอะนะ ว่าเเล้วก็ต้องขอบคุณเพื่อน ดิวเลอร์ผู้หญิง จากที่ทำงานมากเลยที่พาไปหาประสบการณ์ เเปลกใหม่ อยากจะบอกว่ามันเป็นความรู้สึกที่ใช่อะ เเฮปปี้ สุดๆๆ ณ ตอนนี้ก็รอให้ ช่วงเก็บเห็ดของปีหน้ามาเร็วๆๆ จะได้ไปเก็บเห็ดอีก อิๆๆ


















Friday, September 4, 2015

รวมเรื่องเเปลกๆๆที่ทำงาน


เเปลกเเต่จริง

**วันหนึ่งกำลังเดินไปที่โต๊ะ หลังจากพักเบรคเสร็จ เห็นหมาตัวโตมาก นอนอยู่บนพื้น เเอบงงว่าเอ๊ะ อะไร ยังไง ที่นี้เอาหมาเข้ามาได้ด้วยเหรอ คือว่า ไม่เข้าใจ ว่า เจ้าของหมา จะพาหมา มาด้วย ทำไม หรือ อีกวันเจอ ยายคนหนึ่งจูง หมา มาสองตัวเลย เเหม่ ยายพาหมามาเล่นไพ่ด้วยอะ มีการเเนะนำหมาด้วยนะว่า หมาชื่ออะไร ฮ่าๆๆ อืมมมมม หมดคำบรรยาย อย่าว่าเเต่เรามองเลย ขนาดฝรั่งด้วยกันยังมอง เเล้วทำหน้า งง เคยมีลูกค้าถามเราว่าที่นี้เขาให้เอาหมาเข้ามาได้ด้วยเหรอ ไอ้เราก็บอกกับลูกค้าว่า พูดจริงๆๆนะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฮ่าๆๆ กลับบ้านไปถามเเฟน เเฟนบอกว่า บางคน มีใบอนุญาติให้นำหมาเข้าไปได้ อ้อ เหรอ มี เเบบนี้ด้วยเหรอ

**มีลูกค้าผู้หญิงเกาหลี อายุประมาณเกือบห้าสิบ สั่งเครื่องดื่มมา ไอ้เราก็เห็นเป็นเเก้วพลาสติกสีส้ม กับ ซอสพริก สักพัก เห็นป้าเเก เท ซอสพริก ใส่เครื่องดืม อะไรอะ มันคืออะไร ฮ่าๆๆ นี้คือวิธีการดื่มเเบบใหม่หรืออย่างไรกัน ฝรั่งที่นั่งข้างป้าก็มอง เเล้วหันมามองหน้าเราประมาณว่ายูเห็นไหม เขาทำอะไรนะ ฮ่าๆๆ ในใจเเอ๊บคิดว่า เอ๊ะ หรือว่าคนเกาหลีเขาดื่มกันเเบบนี้ ฮ่าๆๆๆๆ อันนี้ก็ปล่อยให้งงกันต่อไป ฮ่าๆๆๆ ไม่กล้าถามเดี๋ยวเจ้ เเก เสียไพ่เเล้วมีน้ำโห ฮ่าๆๆ อันนี้ก็ปล่อยเเกไป

**เรื่องปกติของเราเเต่ฝรั่งมองว่าเเปลก**

ที่ห้องพักพนักงาน เราซื้อ สัปปะรด มานั่งกินกะเกลือ โอ้เเม่เจ้าฝรั่งที่นั่งโต๊ะเดียวกับเรามองกันทั้งโต๊ะเเล้วก็เริ่มวิจารณ์กันต่างๆๆนาๆๆ ว่าจริงเหรอ ยูกิน สัปปะรด กะเกลือเหรอ เเปลกอะ ไอ้เราก็บอกว่า ไม่เเปลกหรอก ปกติคนเอเชียเขาก็กินกันเเบบนี้เเหละ มาดูของฝรั่งกันบ้างที่กินต่างกับเรา เวลาเขากินเเตงโมเขากินกับเกลืออะ ไอ้เราก็งงอะ จริงเหรอ ยูกินเเตงโมกับเกลือเหรอ เอ้อ ก็ต้องยอมรับนะว่า อร่อยเขาอร่อยเรามันไม่เหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ


Sunday, August 30, 2015

รวมเรื่องเล่า ประสบการณ์ชีวิตที่อเมริกา: รวม เรื่อง ขำๆๆ ที่ทำงาน ที่คาสิโน

รวมเรื่องเล่า ประสบการณ์ชีวิตที่อเมริกา: รวม เรื่อง ขำๆๆ ที่ทำงาน ที่คาสิโน: รวมเรื่อง ขำๆๆ ที่ทำงานที่ คาสิโน วันหนึ่งไปทำงาน มี เพื่อน รุ่นลุง เเกเป็นดิวเลอร์เหมือนกัน ลุงเป็นคนที่ฮา มากอะ อายุลุงเยอะเเล้วนะ ประม...

รวมเรื่องเล่า ประสบการณ์ชีวิตที่อเมริกา: ประสบการณ์ การสัมภาษณ์งานที่ ฮา ที่สุดในชีวิต

รวมเรื่องเล่า ประสบการณ์ชีวิตที่อเมริกา: ประสบการณ์ การสัมภาษณ์งานที่ ฮา ที่สุดในชีวิต: สวัสดีค่ะ เพื่อนๆๆ เรามีเรื่องเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ การสัมภาษณ์งานที่ ฮา ที่สุดมาเล่าให้ฟังค่ะ เมื่อสองปีก่อนเรากับเเฟน เพิ่งย้ายมาไอโอวา ...